พุทธธัมมเจดีย์อริยสัจจากพระโอษฐ์

พิมพ์คำค้นหาแล้วกดส่ง

อริยสัจจากพระโอษฐ์ > ภาค ๔ > นิทเทศ 14 ว่าด้วย สัมมาทิฏฐิ > ความถูกต้องเกี่ยวกับความรู้สึกว่าปฏิกูลหรือไม่ปฏิกูล
«
»

หน้า:

ความถูกต้องเกี่ยวกับความรู้สึกว่าปฏิกูลหรือไม่ปฏิกูล

ปรับขนาด: 16px

-ความถูกต้องเกี่ยวกับความรู้สึกว่าปฏิกูลหรือไม่ปฏิกูล

ภิกษุ ท. ! ๑. ภิกษุ เป็นผู้ มีสัญญาว่าปฏิกูล ในสิ่งไม่ปฏิกูล ตามกาลอันควรอยู่ เป็นความถูกต้อง. ๒. ภิกษุ เป็นผู้มีสัญญาว่าไม่ปฏิกูล ในสิ่งปฏิกูล ตามกาลอันควรอยู่ เป็นความถูกต้อง. ๓. ภิกษุ เป็นผู้มีสัญญาว่าปฏิกูล ทั้งในสิ่งที่ไม่ปฏิกูลและสิ่งปฏิกูล ตามกาลอันควรอยู่ ก็เป็นความถูกต้อง. ๔. ภิกษุ เป็นผู้มีสัญญาว่าไม่ปฏิกูล ทั้งในสิ่งปฏิกูลและสิ่งไม่ปฏิกูล ตามกาลอันควรอยู่ก็เป็นความถูกต้อง. ๕. ภิกษุ เว้นขาดจากความรู้สึกว่า สิ่งไม่ปฏิกูลและสิ่งปฏิกูล เสียทั้งสองอย่าง เป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติสัมปชัญญะ ตามกาลอันควรอยู่ ก็เป็นความถูกต้อง.

๑. ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์อะไรเล่า ภิกษุจึง เป็นผู้มี สัญญาว่าปฏิกูลในสิ่งไม่ปฏิกูลอยู่ ? ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์

ข้อนี้ว่า “ราคะอย่าบังเกิดขึ้นแก่เรา ในธรรมเป็นที่ตั้งแห่งราคะ” ดังนี้ ภิกษุจึง เป็นผู้มีสัญญาว่าปฏิกูลในสิ่งไม่ปฏิกูลอยู่.

๒. ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์อะไรเล่า ภิกษุจึง เป็นผู้มีสัญญาว่าปฏิกูลในสิ่งปฏิกูลและสิ่งปฏิกูลอยู่ ? ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์ข้อนี้ว่า “โทสะอย่าบังเกิดขึ้นแก่เรา ในธรรมเป็นที่ตั้งแห่งโทสะ” ดังนี้ ภิกษุจึงเป็นผู้มีสัญญาว่าไม่ปฏิกูลในสิ่งปฏิกูลอยู่.

๓. ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์อะไรเล่า ภิกษุจึง เป็นผู้มีสัญญาว่าปฏิกูลในสิ่งไม่ปฏิกูลและสิ่งปฏิกูลอยู่ ? ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์ข้อนี้ว่า “ราคะอย่าบังเกิดขึ้นแก่เรา ในธรรมเป็นที่ตั้งแห่งราคะ โทสะก็อย่าบังเกิดขึ้นแก่เรา ในธรรมเป็นที่ตั้งแห่งโทสะ” ดังนี้ ภิกษุจึงเป็น ผู้มีสัญญาว่าปฏิกูลทั้งในสิ่งไม่ปฏิกูลและปฏิกูลอยู่.

๔. ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์อะไรเล่า ภิกษุจึง เป็นผู้มีสัญญาว่าไม่ปฏิกูลทั้งในสิ่งปฏิกูลและสิ่งไม่ปฏิกูลอยู่ ? ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์ข้อนี้ว่า “โทสะอย่าบังเกิดขึ้นแก่เรา ในธรรมเป็นที่ตั้งแห่งโทสะ. ราคะก็อย่าบังเกิดขึ้นแก่เรา ในธรรมเป็นที่ตั้งแห่งราคะ” ดังนี้ ภิกษุจึงเป็นผู้มีสัญญาว่าไม่ปฏิกูลทั้งในสิ่งปฏิกูลและสิ่งไม่ปฏิกูลอยู่ .

๕. ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์อะไรเล่า ภิกษุจึงเว้นขาดความรู้สึกว่าสิ่งไม่ปฏิกูลและสิ่งปฏิกูลเสียทั้งสองอย่าง เป็นผู้อยู่อุเบกขามีสติสัมปชัญญะ อยู่ ? ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัยอำนาจประโยชน์ข้อนี้ว่า

“ราคะอย่าบังเกิดขึ้นแก่เรา ในธรรมเป็นที่ตั้งแห่งราคะ ในส่วนไหนๆ ในที่ไรๆ ชนิดไรๆ. โทสะก็อย่าบังเกิดขึ้นแก่เรา ในธรรมเป็นที่ตั้งแห่งโทสะ ในส่วนไหนๆ ในที่ไรๆ ชนิดไรๆ. โมหะก็อย่าบังเกิดขึ้นแก่เรา ในธรรมเป็นที่ตั้งแห่งโมหะ ในส่วนไหนๆ ในที่ไรๆ ชนิดไรๆ” ดังนี้ ภิกษุจึงเว้นขาดจากความรู้สึกว่าสิ่งไม่ปฏิกูลและสิ่งปฏิกูลเสียทั้งสองอย่าง เป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติสัมปชัญญะอยู่, ดังนี้แล.

เสียงอ่าน
อาจิต โตเกียรติรุ่งเรือง:
1510-ความถูกต้องเกี่ยวกับความรู้นึกว่าปฏิกูลหรือไม่ปฏิกูล.mp3

อ้างอิง
ไทย: - ปญจก.อํ. 22/189/144.
บาลี: - ปญจก.อํ. ๒๒/๑๘๙/๑๔๔.

AI ช่วยอ่าน

กรุณาคัดลอกและวางพระสูตรในช่องนี้เพื่อฟังเสียง

×

สารบัญหนังสือ