พระสุตตันตปิฎกไทย: 20/99/447 448
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
สัพยาปัชชสูตร
[๔๔๗] ๘. ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการ พึงทราบว่าเป็น
คนพาล ธรรม ๓ ประการเป็นไฉน คือ กายกรรมที่เป็นการเบียดเบียน ๑ วจีกรรมที่เป็นการ
เบียดเบียน ๑ มโนกรรมที่เป็นการเบียดเบียน ๑ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม
๓ ประการนี้แล พึงทราบว่าเป็นคน---พาล ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการ
พึงทราบว่าเป็นบัณฑิต ธรรม ๓ ประการเป็นไฉน คือ กายกรรมที่ไม่เป็นการเบียดเบียน ๑
วจีกรรมที่ไม่เป็นการเบียดเบียน ๑ มโนกรรมที่ไม่เป็นการเบียดเบียน ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย
บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการนี้แล พึงทราบว่าเป็นบัณฑิตดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะ
ฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า บุคคลประกอบด้วยธรรม ๓ ประการเหล่าใด
อันเขาพึงรู้ว่าเป็นคนพาล เราจักประพฤติเว้นธรรม ๓ ประการนั้น บุคคลประกอบด้วยธรรม
๓ ประการเหล่าใด อันเขาพึงรู้ว่าเป็นบัณฑิต เราจักประพฤติสมาทานธรรม ๓ ประการนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลายเธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้แล ฯ
ขตสูตร
[๔๔๘] ๙. ดูกรภิกษุทั้งหลาย คนพาลไม่ฉลาด เป็นอสัตบุรุษประกอบด้วยธรรม
๓ ประการ ย่อมบริหารตนให้ถูกกำจัด ถูกทำลาย เป็นผู้เป็นไปกับด้วยโทษ ถูกผู้รู้ติเตียน
และประสบบาปมิใช่บุญเป็นอันมาก ธรรม ๓ประการเป็นไฉน คือ กายทุจริต ๑ วจีทุจริต ๑
มโนทุจริต๑ ดูกรภิกษุทั้งหลายคนพาลไม่ฉลาด เป็นอสัตบุรุษ ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการ
นี้แล ย่อมบริหารตนให้ถูกกำจัด ให้ถูกทำลาย เป็นผู้เป็นไปกับด้วยโทษ ถูกผู้รู้ติเตียน
และประสบบาปมิใช่บุญเป็นอันมาก ดูกรภิกษุทั้งหลาย บัณฑิตผู้ฉลาด เป็นสัตบุรุษประกอบด้วย
ธรรม ๓ ประการ ย่อมบริหารตนไม่ให้ถูกกำจัด ไม่ให้ถูกทำลายเป็นผู้ไม่มีโทษ ผู้รู้ไม่ติเตียน
และประสบบุญเป็นอันมาก ธรรม ๓ ประการเป็นไฉน คือ กายสุจริต ๑ วจีสุจริต ๑
มโนสุจริต ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลายบัณฑิตผู้ฉลาด เป็นสัตบุรุษ ประกอบด้วยธรรม ๓ ประการนี้แล
ย่อมบริหารตนไม่ให้ถูกกำจัด ไม่ให้ถูกทำลาย เป็นผู้ไม่มีโทษ ผู้รู้ไม่ติเตียน และประสบบุญ
เป็นอันมาก ฯ