พระสุตตันตปิฎกไทย: 11/92/96
สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค
เป็นสัมมาสัมพุทธะประกาศไว้ เป็นธรรมวินัยมีที่พำนักอันทำลายเสียแล้ว เป็นธรรมวินัยไม่มีที่
พึ่งพาอาศัย ฯ
เมื่อสามเณรจุนทะกล่าวแล้วอย่างนี้ ท่านพระอานนท์ได้กล่าวกะสามเณรจุนทะว่า อาวุโส
จุนทะ มีมูลเหตุแห่งถ้อยคำนี้ เพื่อเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าละ อาวุโส จุนทะ มาเถิด เราจักเข้า
ไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ณ ที่ประทับ ครั้นแล้ว พึงทูลบอกเรื่องนี้ แด่พระผู้มีพระภาค สามเณร
จุนทะรับคำของท่านพระอานนท์ แล้ว
ลำดับนั้นแล ท่านพระอานนท์และสามเณรจุนทะ ได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่
ประทับ ครั้นแล้ว ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว
ท่านพระอานนท์ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ สามเณรจุนทะนี้ ได้บอก
อย่างนี้ว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ นิครณฐ์นาฏ บุตรทำกาละแล้วที่เมืองปาวาไม่นานนัก เพราะกาล
กิริยาของนิครณฐ์นาฏบุตรนั้น พวกนิครณฐ์นาฏบุตรแตกกัน เกิดแยกกันเป็นสองพวก ฯลฯ
โดยเหตุที่ธรรมวินัย อันนิครณฐ์นาฏบุตรกล่าวไว้ไม่ดี ประกาศไว้ไม่ดี ไม่เป็นธรรมวินัยที่จะนำ
ผู้ปฏิบัติให้ออกไปจากทุกข์ได้ ไม่เป็นไปเพื่อความสงบระงับ ไม่ใช่ธรรมวินัยที่ท่านผู้เป็น สัมมาสัม
พุทธะประกาศไว้ เป็นธรรมวินัยมีที่พำนักอันทำลายเสียแล้ว เป็นธรรมวินัยไม่มีที่พึ่งพาอาศัย
ดังนี้ ฯ
[๙๖] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรจุนทะ ข้อนี้ย่อมมีได้อย่างนั้น ใน ธรรมวินัยที่
ศาสดากล่าวไว้ไม่ดี ประกาศไว้ไม่ดี ไม่เป็นธรรมวินัยที่จะนำผู้ ปฏิบัติให้ออกไปจากทุกข์ได้ ไม่
เป็นไปเพื่อความสงบระงับ ไม่ใช่ธรรมวินัย ที่ท่านผู้เป็นสัมมาสัมพุทธะประกาศไว้ อย่างนี้แล
ดูกรจุนทะ ศาสดาในโลกนี้ไม่เป็นสัมมาสัมพุทธะ และธรรมก็เป็นธรรมอันศาสดานั้นกล่าวไว้
ไม่ดี ประกาศ ไว้ไม่ดี ไม่เป็นธรรมที่จะนำผู้ปฏิบัติให้ออกไปจากทุกข์ได้ ไม่เป็นไปเพื่อความ
สงบระงับ ไม่ใช่ธรรมที่ท่านผู้เป็นสัมมาสัมพุทธะประกาศไว้ แต่สาวกไม่ เป็นผู้ปฏิบัติธรรม
สมควรแก่ธรรม ไม่เป็นผู้ปฏิบัติชอบยิ่ง ไม่เป็นผู้ประพฤติตามธรรม และย่อมประพฤติหลีก
เลี่ยงจากธรรมนั้น สาวกนั้นเป็นผู้อันใครๆ พึงกล่าว อย่างนี้ว่า ดูกรอาวุโส เป็นลาภของท่าน
นั้นละ ท่านนั้นได้ดีแล้ว ศาสดาของท่านไม่เป็นสัมมาสัมพุทธะ และธรรมเล่าก็เป็นธรรมที่
ศาสดานั้นกล่าวไว้ไม่ดี ประกาศ ไว้ไม่ดี ไม่เป็นธรรมที่จะนำผู้ปฏิบัติให้ออกไปจากทุกข์ได้ ไม่