พระสุตตันตปิฎกไทย: 21/90/90

สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต
เล่ม 21
หน้า 90
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลเป็นสมณะบุณฑริกอย่างไร ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มี สัมมาทิฏฐิ ฯลฯ มีสัมมาญาณะ มีสัมมาวิมุติ แต่ไม่ถูกต้องวิโมกข์ ๘ ด้วยนามกายอยู่ บุคคลเป็น สมณะบุณฑริกอย่างนี้แล ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลเป็นสมณะปทุมอย่างไร ภิกษุในธรรมวินัยนี้เป็นผู้มี สัมมาทิฏฐิ ฯลฯ มีสัมมาญาณะ มีสัมมาวิมุติ และถูกต้องวิโมกข์ ๘ด้วยนามกายอยู่ บุคคลเป็น สมณะปทุมอย่างนี้แล ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลเป็นสมณะผู้ละเอียดอ่อนในหมู่สมณะอย่างไร ภิกษุใน ธรรมวินัยนี้ ได้รับขอร้องจึงบริโภคจีวรมาก ไม่ได้รับขอร้องย่อมบริโภคแต่น้อย ฯลฯ บุคคลเป็น สมณะผู้ละเอียดอ่อนในหมู่สมณะอย่างนี้แล ฯ บุคคลเมื่อจะเรียกบุคคลใดโดยชอบว่า เป็นสมณะผู้ละเอียดอ่อนในหมู่สมณะ พึง เรียกบุคคลนั้น คือ เรานี่แหละว่า เป็นสมณะผู้ละเอียดอ่อนในหมู่สมณะ เพราะเราได้รับขอร้อง เท่านั้นจึงบริโภคจีวรมาก ไม่ได้รับขอร้องย่อมบริโภคแต่น้อย ฯลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๔ จำพวกนี้แล มีปรากฏอยู่ในโลก ฯ จบสูตรที่ ๙ ขันธสูตร
[๙๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๔ จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก ๔จำพวกเป็นไฉน คือ บุคคลเป็นสมณะผู้ไม่หวั่นไหวจำพวก ๑ เป็นสมณะบุณฑริกจำพวก ๑ เป็นสมณะปทุมจำพวก ๑ เป็นสมณะผู้ละเอียดอ่อนในหมู่สมณะจำพวก ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลเป็นสมณะผู้ไม่ หวั่นไหวอย่างไรภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นพระเสขะ ยังไม่บรรลุอรหัตมรรค ปรารถนาความสิ้นโยคะ อันยอดเยี่ยมอยู่ บุคคลเป็นสมณะผู้ไม่หวั่นไหวอย่างนี้แล ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลเป็นสมณะบุณฑริกอย่างไร ภิกษุในธรรมวินัยนี้ มีปรกติ พิจารณาเห็นความเกิดและความดับในอุปาทานขันธ์ ๕ ว่า รูปเป็นดังนี้ ความเกิดขึ้นแห่งรูปเป็น ดังนี้ ความดับแห่งรูปเป็นดังนี้ เวทนาเป็นดังนี้ ...สัญญาเป็นดังนี้ ... สังขารเป็นดังนี้ ... วิญญาณเป็น ดังนี้ ความเกิดขึ้นแห่งวิญญาณเป็นดังนี้ ความดับแห่งวิญญาณเป็นดังนี้ แต่เธอหาได้ถูกต้อง วิโมกข์ ๘ ด้วยนามกายไม่ บุคคลเป็นสมณะบุณฑริกอย่างนี้แล ฯ