พระสุตตันตปิฎกไทย: 10/90/96 97 98      
      สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค
      
     
 
    
        
          
            
 [๙๖] มุนีปลงเสียได้แล้วซึ่งกรรมที่ชั่งได้
      และกรรมที่ชั่งไม่ได้ อันเป็นเหตุสมภพ
      เป็นเครื่องปรุงแต่งภพ และได้ยินดีในภายใน
      มีจิตตั้งมั่น ทำลายกิเลสที่เกิดในตนเสีย เหมือนนักรบ
      ทำลายเกราะฉะนั้น ฯ
 [๙๗] ครั้งนั้น พระอานนท์ได้มีความคิดอย่างนี้ว่า น่าอัศจรรย์จริงหนอ    เหตุไม่เคย
มีมามีขึ้น แผ่นดินใหญ่นี้ไหวได้ แผ่นดินใหญ่นี้ไหวได้จริงๆ ความ    ขนพองสยองเกล้าน่าพึงกลัว
ทั้งกลองทิพย์ก็บันลือลั่น อะไรหนอเป็นเหตุ     อะไรหนอเป็นปัจจัยสำหรับให้แผ่นดินไหวใหญ่
ปรากฏ ฯ
      ลำดับนั้น ท่านพระอานนท์เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้น เข้าไปเฝ้าแล้ว
ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้น   ท่านพระอานนท์นั่งเรียบร้อย
แล้วได้กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ น่าอัศจรรย์ เหตุไม่เคยมีมามีขึ้น แผ่นดินใหญ่นี้ไหว
ได้ แผ่นดินใหญ่นี้ไหวได้จริงๆ ความ      ขนพองสยองเกล้าน่าพึงกลัว ทั้งกลองทิพย์ก็บันลือลั่น
 อะไรหนอเป็นเหตุ     อะไรหนอเป็นปัจจัย สำหรับให้แผ่นดินไหวใหญ่ปรากฏ ฯ
 [๙๘] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ดูกรพระอานนท์ เหตุ ๘ ประการ  ปัจจัย ๘
ประการเหล่านี้แล เพื่อให้แผ่นดินไหวใหญ่ปรากฏ ๘ ประการเป็นไฉน ฯ
      ดูกรอานนท์ มหาปฐพีนี้ตั้งอยู่บนน้ำ น้ำตั้งอยู่บนลม ลมตั้งอยู่บนอากาศ   สมัยที่ลม
ใหญ่พัด เมื่อลมใหญ่พัดอยู่ย่อมยังน้ำให้ไหว น้ำไหวแล้ว ย่อมยัง แผ่นดินให้ไหว อันนี้เป็นเหตุ
เป็นปัจจัยข้อที่หนึ่ง เพื่อให้แผ่นดินไหวใหญ่   ปรากฏ ฯ
      อีกประการหนึ่ง สมณะหรือพราหมณ์ผู้มีฤทธิ์ ถึงความเป็นผู้ชำนาญใน  ทางจิต หรือ
ว่าเทวดาผู้มีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก เขาเจริญปฐวีสัญญาเพียง  เล็กน้อย เจริญอาโปสัญญาอย่าง
แรงกล้า เขาย่อมยังแผ่นดินนี้ให้สะเทือนสะท้าน      หวั่นไหวได้ อันนี้เป็นปัจจัยข้อที่สอง เพื่อให้
แผ่นดินไหวใหญ่ปรากฏ ฯ
      อีกประการหนึ่ง เมื่อใด พระโพธิสัตว์จุติจากชั้นดุสิต มีสติสัมปชัญญะ  ลงสู่
พระครรภ์พระมารดา เมื่อนั้น แผ่นดินนี้ย่อมสะเทือนสะท้านหวั่นไหว อันนี้   เป็นเหตุเป็นปัจจัย
ข้อที่สาม เพื่อให้แผ่นดินไหวใหญ่ปรากฏ ฯ