พระสุตตันตปิฎกไทย: 32/87/34

สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑
เล่ม 32
หน้า 87
สาคตเถราปทานที่ ๒ (๓๒) ว่าด้วยผลแห่งการสรรเสริญพระพุทธเจ้า
[๓๔] ในกาลนั้น เราเป็นพราหมณ์มีนามชื่อว่า โสภิตะ อันบริวารพร้อมด้วย ศิษย์แวดล้อมแล้ว ได้ไปยังอาราม สมัยนั้นพระผู้มีพระภาคผู้อุดมบุรุษ แวดล้อมด้วยภิกษุสงฆ์ เสด็จออกจากประตูพระอารามแล้วประทับยืนอยู่ เราได้เห็นพระสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ฝึกพระองค์แล้ว แวดล้อมด้วย ภิกษุสงฆ์ผู้ฝึกตนแล้ว จึงยังจิตของตนให้เลื่อมใสแล้วเชยชมพระองค์ผู้นำ ของโลกว่า ต้นไม้ทุกชนิดนั้น งอกงามบนแผ่นดิน ฉันใด สัตว์ผู้มี ความรู้ก็ฉันนั้น ย่อมงอกงามในศาสนาของพระชินเจ้า พระองค์สัพพัญญู ผู้ทรงนำหมู่แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่ ทรงถอนคนเป็นอันมากออกจากทาง ผิดแล้ว ตรัสบอกทางที่ถูก พระองค์ฝึกพระองค์แล้วแวดล้อมด้วยผู้ฝึก ตนแล้ว ทรงเพ่งฌาน แวดล้อมด้วยผู้เพ่งฌาน ทรงมีความเพียร แวด ล้อมด้วยผู้ส่งตนไปแล้ว ผู้สงบระงับและผู้คงที่ ประดับด้วยบริษัท ย่อม งามด้วยพระญาณอันเกิดแต่บุญ รัศมีของพระองค์รุ่งเรือง ดังพระอาทิตย์ อุทัยฉะนั้น พระศาสดาพระนามว่า ปทุมุตระ ผู้ทรงแสวงหาคุณใหญ่ ทอดพระเนตรเห็นเราผู้มีจิตเลื่อมใส ประทับยืนท่ามกลางภิกษุสงฆ์ ได้ ตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า พราหมณ์ใดยังความร่าเริงให้เกิดแล้ว สรรเสริญ เรา พราหมณ์นั้นจักรื่นรมย์อยู่ในเทวโลกตลอดแสนกัลป อันกุศลมูล ตักเตือนแล้ว จักเคลื่อนจากสวรรค์ชั้นดุสิต แล้วจักบวชในศาสนาของ พระผู้มีพระภาคพระนามว่าโคดม ครั้นบวชในศาสนาแล้วจักได้ความยินดี และความร่าเริง จักเป็นสาวกของพระศาสดามีนามชื่อว่าสาคตะ เราบวช แล้วเว้นกรรมอันลามกด้วยกาย ละวจีทุจริต ยังอาชีพให้บริสุทธิ์ เรา เป็นอยู่อย่างนี้ เป็นผู้ฉลาดในเตโชธาตุ กำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้ว