พระสุตตันตปิฎกไทย: 10/79/86      
      สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค
      
     
 
    
        
          
             นั้นได้นามว่าประตูโคดมแล้ว ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเสด็จไปยังแม่น้ำคงคา    แล้ว ก็สมัยนั้น
แม่น้ำคงคาเต็มเปี่ยมเสมอฝั่ง กาดื่มกินได้ พวกมนุษย์ผู้ประสงค์จะข้ามฟาก บางพวก เที่ยวหา
เรือ บางพวกเที่ยวหาแพ บางพวกผูกทุ่น ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคกับภิกษุสงฆ์ทรงหายไป ณ
ที่ฝั่งนี้แห่งแม่น้ำคงคา ไปปรากฏตน     ที่ฝั่งโน้น เหมือนบุรุษผู้มีกำลังเหยียดแขนที่คู้ไว้ หรือคู้แขน
ที่เหยียดออกแล้ว    ฉะนั้น พระผู้มีพระภาคได้ทอดพระเนตรมนุษย์เหล่านั้น ผู้ประสงค์จะข้ามฟาก
 บางพวกเที่ยวหาเรือ บางพวกเที่ยวหาแพ บางพวกผูกทุ่นอยู่ พระองค์ทรงทราบ  เนื้อความนี้แล้ว
ทรงเปล่งพระอุทานนี้ในเวลานั้นว่า
เหล่าชนที่จะข้ามสระ คือ ตัณหาอันเวิ้งว้าง ต้องสร้างสะพาน  คือ (อริย
มรรค) พ้นเปือกตม ก็และขณะที่ชนกำลังผูกทุ่นอยู่   หมู่ชนผู้มีปัญญา
ข้ามได้แล้ว ฯ
		    จบภาณวารที่หนึ่ง ฯ
 [๘๖] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาค ตรัสเรียกท่านพระอานนท์มารับสั่งว่า  ดูกรอานนท์
มาไปกันเถิด เราจักไปโกฏิคาม ท่านพระอานนท์ทูลรับพระดำรัส     ของพระผู้มีพระภาคแล้ว
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่      เสด็จถึงโกฏิคามแล้ว ได้ยินว่า พระ
ผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ โกฏิคามนั้น ณ ที่    นั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกร
ภิกษุทั้งหลาย เพราะไม่รู้แจ้ง    แทงตลอดอริยสัจ ๔ เราและพวกเธอจึงเร่ร่อนท่องเที่ยวไปสิ้นกาล
นานอย่างนี้  เพราะไม่รู้แจ้งแทงตลอดอริยสัจ ๔ เป็นไฉน เพราะไม่รู้แจ้งแทงตลอดทุกขอริยสัจ
 เราและพวกเธอจึงเร่ร่อนท่องเที่ยวไปตลอดกาลนานอย่างนี้ เพราะไม่รู้แจ้งแทงตลอด ทุกขสมุทัย
อริยสัจ ... ทุกขนิโรธอริยสัจ ... ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจเราและพวกเธอจึงเร่ร่อนท่องเที่ยว
ไปสิ้นกาลนานอย่างนี้ ฯ
      ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราได้รู้แจ้งแทงตลอดทุกขอริยสัจ ทุกขสมุทัยอริยสัจ    ทุกขนิโรธ
อริยสัจ ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจแล้ว ตัณหาในภพ เราถอนเสีย แล้ว ตัณหาอันจะนำไป
สู่ภพสิ้นแล้ว บัดนี้ ภพใหม่ไม่มี ฯ
      พระผู้มีพระภาคผู้สุคตศาสดาครั้นได้ตรัสไวยากรณ์ภาษิตนี้จบลงแล้ว จึง       ได้ตรัสคาถา
ประพันธ์ต่อไปอีกว่า