พระสุตตันตปิฎกไทย: 24/77/46
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต
พ. ดูกรอุบาสกชาวสักกะทั้งหลาย ไม่เป็นลาภของท่านทั้งหลายเสียแล้วท่านทั้งหลาย
ไม่ได้ดีเสียแล้ว ที่ท่านทั้งหลายเมื่อชีวิตมีภัยเพราะความโศก มีภัยเพราะความตายอยู่อย่างนี้
บางคราวก็รักษาอุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘บางคราวก็ไม่ได้รักษา ดูกรอุบาสกชาวสักกะ
ทั้งหลาย ท่านทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน บุรุษในโลกนี้พึงยังทรัพย์กึ่งกหาปณะ
ให้เกิดขึ้นทุกๆ วันด้วยการงานอันชอบโดยไม่แตะต้องอกุศลเลย สมควรจะกล่าวได้หรือไม่ว่า
เป็นบุรุษฉลาดสมบูรณ์ด้วยความหมั่น ฯ
อุ. สมควรกล่าวได้อย่างนั้น พระพุทธเจ้าข้า ฯ
พ. ดูกรอุบาสกชาวสักกะทั้งหลาย ท่านทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน บุรุษ
ในโลกนี้พึงยังทรัพย์กหาปณะหนึ่งให้เกิดขึ้นทุกๆ วัน ด้วยการงานอันชอบโดยไม่แตะต้องอกุศล
เลย สมควรจะกล่าวได้หรือไม่ว่า เป็นบุรุษผู้ฉลาดสมบูรณ์ด้วยความหมั่น ฯ
อุ. สมควรกล่าวได้อย่างนั้น พระพุทธเจ้าข้า ฯ
พ. ดูกรอุบาสกชาวสักกะทั้งหลาย ท่านทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน บุรุษ
ในโลกนี้ พึงยังทรัพย์ ๒ กหาปณะ ๓ กหาปณะ ๔ กหาปณะ๕ กหาปณะ ๖ กหาปณะ ๗
กหาปณะ ๘ กหาปณะ ๙ กหาปณะ ๑๐ กหาปณะ๒๐ กหาปณะ ๓๐ กหาปณะ ๔๐
กหาปณะ ๕๐ กหาปณะ ๑๐๐ กหาปณะให้เกิดขึ้นทุกๆ วัน ด้วยการงานอันชอบโดยไม่แตะต้อง
อกุศลเลย สมควรจะกล่าวได้หรือไม่ว่า เป็นบุรุษผู้ฉลาดสมบูรณ์ด้วยความหมั่น ฯ
อุ. สมควรกล่าวได้อย่างนั้น พระพุทธเจ้าข้า ฯ
พ. ดูกรอุบาสกชาวสักกะทั้งหลาย ท่านทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน บุรุษนั้น
เมื่อยังทรัพย์ ๑๐๐ กหาปณะ ๑๐๐๐ กหาปณะ ให้เกิดขึ้นทุกๆ วัน เก็บทรัพย์ที่ตนได้แล้วๆ ไว้
เป็นผู้มีชีวิตร้อยปี จะพึงประสบกองโภคสมบัติเป็นอันมากบ้างหรือหนอ ฯ
อุ. พึงเป็นอย่างนั้นได้ พระพุทธเจ้าข้า ฯ
พ. ดูกรอุบาสกชาวสักกะทั้งหลาย ท่านทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน บุรุษนั้น
จะพึงเสวยความสุขโดยส่วนเดียวอยู่หนึ่งคืน หนึ่งวันหรือกึ่งวัน อันมีโภคสมบัติเป็นเหตุ
มีโภคสมบัติเป็นแดนเกิด มีโภคสมบัติเป็นที่ตั้งบ้างหรือหนอ ฯ