พระสุตตันตปิฎกไทย: 25/71/64
สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
นั่งอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง พระผู้มีพระภาคตรัสถามนางวิสาขามิคารมารดาว่า ดูกรนางวิสาขา
ท่านมาแต่ที่ไหนหนอในเวลาเที่ยง นางวิสาขามิคารมารดากราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอ
ประทานพระวโรกาส ประโยชน์บางอย่างของหม่อมฉันเนื่องในพระเจ้าปเสนทิโกศล พระเจ้า
ปเสนทิโกศลไม่ทรงยังประโยชน์นั้นให้สำเร็จตามความประสงค์ ฯ
ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว ทรงเปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่า
ประโยชน์ทั้งหมดอยู่ในอำนาจของผู้อื่น นำทุกข์มาให้ ความเป็นใหญ่ทั้ง
หมดนำสุขมาให้ เมื่อมีสาธารณประโยชน์ที่จะพึงให้สำเร็จ สัตว์ทั้งหลาย
ย่อมเดือดร้อน เพราะว่ากิเลสเครื่องประกอบสัตว์ทั้งหลาย ก้าวล่วงได้
โดยยาก ฯ
จบสูตรที่ ๙
๑๐. กาฬิโคธาภัททิยสูตร
[๖๔] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่อนุปิยอัมพวัน ก็สมัยนั้นแลท่านพระภัททิยะ
พระโอรสของพระราชาเทวีพระนามว่า กาฬิโคธา อยู่ในป่าก็ดีอยู่โคนไม้ก็ดี อยู่เรือนว่างก็ดี
ได้เปล่งอุทานเนืองๆ ว่า สุขหนอ สุขหนอภิกษุเป็นอันมากได้ฟังท่านพระภัททิยะพระโอรส
ของพระราชเทวีกาฬิโคธาอยู่ในป่าก็ดี อยู่โคนไม้ก็ดี อยู่เรือนว่างก็ดี เปล่งอุทานเนืองๆ ว่า
สุขหนอ สุขหนอครั้นแล้วภิกษุเหล่านั้นได้พากันปริวิตกว่า ดูกรท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ท่านพระ
ภัททิยะพระโอรสของพระราชเทวีกาฬิโคธา ไม่ยินดีประพฤติพรหมจรรย์โดยไม่ต้องสงสัย ท่าน
อยู่ป่าก็ดี อยู่โคนไม้ก็ดี อยู่เรือนว่างก็ดี คงหวลระลึกถึงความสุขในราชสมบัติเมื่อเป็นคฤหัสถ์
ในกาลก่อน จึงได้เปล่งอุทานเนืองๆ ว่าสุขหนอ สุขหนอ ครั้งนั้นแล ภิกษุเป็นอันมากเข้า
ไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้
กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ท่านพระภัททิยะพระโอรสของพระราชเทวี
กาฬิโคธา คงไม่ยินดีประพฤติพรหมจรรย์โดยไม่ต้องสงสัย ท่านอยู่ในป่าก็ดีอยู่โคนไม้ก็ดี อยู่
เรือนว่างก็ดี คงหวลระลึกถึงความสุขในราชสมบัติ เมื่อเป็นคฤหัสถ์ในกาลก่อน จึงได้เปล่งอุทาน
เนืองๆ ว่า สุขหนอ สุขหนอ ฯ