พระสุตตันตปิฎกไทย: 24/71/41 42
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต
อักโกสวรรคที่ ๕
วิวาทสูตร
[๔๑] ครั้งนั้นแล ท่านพระอุบาลีได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคม
พระผู้มีพระภาคแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
อะไรหนอแลเป็นเหตุเป็นปัจจัยเครื่องให้ความหมายมั่น การทะเลาะ การแก่งแย่ง และการ
วิวาทเกิดขึ้นในสงฆ์ ที่เป็นเหตุให้ภิกษุทั้งหลายอยู่ไม่สำราญ ฯ
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรอุบาลี ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมแสดงสิ่งที่ไม่เป็นธรรมว่า
เป็นธรรม ย่อมแสดงสิ่งที่เป็นธรรมว่าไม่เป็นธรรม ย่อมแสดงสิ่งที่ไม่เป็นวินัยว่าเป็นวินัย
ย่อมแสดงสิ่งที่เป็นวินัยว่าไม่เป็นวินัย ย่อมแสดงสิ่งที่ตถาคตไม่ได้กล่าวไว้ ไม่ได้บอกไว้ว่า
ตถาคตได้กล่าวไว้ได้บอกไว้ย่อมแสดงสิ่งที่ตถาคตได้กล่าวไว้ได้บอกไว้ว่า ตถาคตไม่ได้กล่าวไว้
ไม่ได้บอกไว้ย่อมแสดงสิ่งที่ตถาคตไม่เคยประพฤติมาว่า ตถาคตเคยประพฤติมา ย่อมแสดง
สิ่งที่ตถาคตเคยประพฤติมาว่า ตถาคตไม่เคยประพฤติมา ย่อมแสดงสิ่งที่ตถาคตไม่ได้บัญญัติไว้ว่า
ตถาคตได้บัญญัติไว้ ย่อมแสดงสิ่งที่ตถาคตได้บัญญัติไว้ว่า ตถาคตไม่ได้บัญญัติไว้ ดูกรอุบาลี
นี้แลเป็นเหตุเป็นปัจจัยเครื่องให้ความหมายมั่น การทะเลาะการแก่งแย่ง และการวิวาทเกิด
ขึ้นในสงฆ์ ที่เป็นเหตุให้ภิกษุทั้งหลายอยู่ไม่สำราญ ฯ
จบสูตรที่ ๑
วิวาทมูลสูตรที่ ๑
[๔๒] อุ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ มูลเหตุแห่งการวิวาท มีเท่าไรหนอแล ฯ