พระสุตตันตปิฎกไทย: 25/70/63

สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
เล่ม 25
หน้า 70
ยินยอมแล้ว พระนางสุปปวาสาโกลิยธิดาจงทรงทำภัตตาหารตลอด ๗ วัน อุบาสกนั้นจะทำใน ภายหลัง พระเจ้าข้า ฯ ครั้งนั้นแล พระนางสุปปวาสาโกลิยธิดา ทรงอังคาสภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ด้วยขาทนียโภชนียาหารอันประณีตด้วยพระหัตถ์ของพระนาง สิ้น ๗ วัน ให้ทารกนั้นถวายบังคม พระผู้มีพระภาคและให้ไหว้ภิกษุสงฆ์แล้ว ลำดับนั้นแล ท่านพระสารีบุตรได้ถามทารกนั้นว่า พ่อหนู เธอสบายดีหรือพอเป็นไปหรอก หรือทุกข์อะไรๆ ไม่มีหรือ ทารกนั้นตอบว่า ข้าแต่ พระสารีบุตรผู้เจริญ กระผมจักสบายแต่ไหนได้ พอเป็นไปแต่ไหน กระผมอยู่ในท้องเปื้อนด้วย โลหิตถึง ๗ ปี ลำดับนั้นแล พระนางสุปปวาสาโกลิยธิดา ทรงมีพระทัยชื่นชมเบิกบานเกิดปีติ โสมนัสว่า บุตรของเราได้สนทนากับพระธรรมเสนาบดี ฯ ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงทราบว่า พระนางสุปปวาสาโกลิยธิดาทรงมีพระทัย ชื่นชม เบิกบานเกิดปีติโสมนัสแล้ว จึงตรัสถามพระนางสุปปวาสาโกลิยธิดาว่า ดูกรพระนาง พึงปรารถนาพระโอรสเห็นปานนี้แม้อื่นหรือ พระนางสุปปวาสากราบทูลว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ผู้เจริญ หม่อมฉันพึงปรารถนาบุตรเห็นปานนี้แม้อื่นอีก ๗ คนเจ้าค่ะ ฯ ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว ทรงเปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่า ทุกข์อันไม่น่ายินดี ย่อมครอบงำคนผู้ประมาท โดยความเป็นของน่ายินดี ทุกข์อันไม่น่ารักย่อมครอบงำคนผู้ประมาทโดยความเป็นของน่ารัก ทุกข์ ย่อมครอบงำบุคคลผู้ประมาทโดยความเป็นสุข ฯ จบสูตรที่ ๘ ๙. วิสาขาสูตร
[๖๓] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ บุพพารามปราสาทของวิสาขามิคารมารดา ใกล้ พระนครสาวัตถี ก็สมัยนั้นแล ประโยชน์บางอย่างของนางวิสาขามิคารมารดา เนื่องในพระเจ้า ปเสนทิโกศล พระเจ้าปเสนทิโกศลไม่ทรงยังประโยชน์นั้นให้สำเร็จตามความประสงค์ ครั้งนั้น เป็นเวลาเที่ยง นางวิสาขามิคารมารดาเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้ว