พระสุตตันตปิฎกไทย: 15/70/274 275 276
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
ชีวิตมีอายุน้อย ถูกชราต้อนเข้าไป ชีวิตที่ถูกชราต้อนเข้าไปแล้ว ย่อม
ไม่มีที่ต้านทาน บุคคลเห็นภัยในมรณะนี้แล้วพึงทำบุญอันจะนำความ
สุขมาให้ ฯ
[๒๗๔] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ชีวิตมีอายุน้อย ถูกชราต้อนเข้าไป ชีวิตที่ถูกชราต้อนเข้าไปแล้ว ย่อม
ไม่มีที่ต้านทาน ผู้เห็นภัยในความตายนี้ พึงละโลกามิสเสีย มุ่งต่อ
สันติ ฯ
อนาถปิณฑิกสูตรที่ ๑๐
[๒๗๕] อนาถบิณฑิกเทวบุตร ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้กล่าวคาถา
เหล่านี้ ในสำนักพระผู้มีพระภาคว่า
ก็พระเชตวันนี้นั้น อันหมู่แห่งท่านผู้แสวงคุณพำนักอยู่ พระธรรมราชา
ก็ประทับอยู่แล้ว เป็นที่ให้เกิดปีติแก่ข้าพระองค์ ฯ
สัตว์ทั้งหลาย ย่อมบริสุทธิ์ด้วยส่วน ๕ นี้ คือ กรรม วิชชา ธรรม
ศีล และชีวิตอันอุดม หาใช่บริสุทธิ์ด้วยโคตรหรือทรัพย์ไม่ ฯ
เพราะเหตุนั้นแหละ บุรุษผู้เป็นบัณฑิต เมื่อเล็งเห็นประโยชน์ของตน
พึงเลือกเฟ้นธรรมโดยแยบคายอย่างนี้ จึงจะบริสุทธิ์ในธรรมนั้น พระ
สารีบุตรรูปเดียวเท่านั้น เป็นผู้ประเสริฐด้วยปัญญา ศีล และธรรม
เครื่องสงบระงับ ภิกษุใดเป็นผู้ถึงซึ่งฝั่ง ภิกษุนั้นก็มีท่านพระสารีบุตร
นั้นเป็นอย่างเยี่ยม ฯ
อนาถบิณฑิกเทวบุตร ครั้นได้กล่าวดังนี้แล้ว ก็ถวายบังคมพระผู้มีพระภาค ทำ
ประทักษิณแล้วอันตรธานไปในที่นั้นเอง ฯ
[๒๗๖] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาค เมื่อล่วงราตรีนั้นแล้ว จึงตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมา
ว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อคืนนี้เทวบุตรองค์หนึ่ง เมื่อราตรี ปฐมยามสิ้นไปแล้ว มีวรรณงาม
ยิ่งนัก ยังวิหารเชตวันทั้งสิ้นให้สว่าง เข้ามาหาเราถึงที่อยู่ ครั้นแล้ว ก็อภิวาทเราแล้ว ได้