พระสุตตันตปิฎกไทย: 21/7/7 8
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต
สรรเสริญเขาโดยศีล แต่สุตะของเขาไม่สมบูรณ์ ถ้าบุคคล
แม้มีสุตะมาก ไม่ตั้งมั่นแล้วในศีล นักปราชญ์ย่อมติเตียน
เขาโดยศีล แต่สุตะของเขาสมบูรณ์ ถ้าบุคคลแม้มีสุตะ
มาก ตั้งมั่นดีแล้วในศีล นักปราชญ์ย่อมสรรเสริญเขา ทั้ง
โดยศีล และสุตะทั้งสอง ใครควรเพื่อจะติเตียนเขาผู้เป็น
พหูสูต ผู้ทรงธรรม เป็นพุทธสาวกผู้มีปัญญา ผู้เป็นประดุจ
แท่งทอง ชมพูนุช แม้เทวดาก็ย่อมชมเชย แม้พรหมก็
สรรเสริญ ฯ
จบสูตรที่ ๖
สังฆโสภณสูตร
[๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๔ จำพวกนี้ เป็นผู้เฉียบแหลม ได้รับแนะนำดีแล้ว
เป็นผู้แกล้วกล้า เป็นพหูสูต เป็นผู้ทรงธรรม ปฏิบัติธรรม สมควรแก่ธรรม ย่อมยังหมู่ให้งาม ๔
จำพวกเป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย คือภิกษุ ๑ ภิกษุณี ๑ อุบาสก ๑ อุบาสิกา ๑ ดูกรภิกษุ
ทั้งหลาย บุคคล ๔ จำพวกนี้แล เป็นผู้เฉียบแหลม ได้รับแนะนำดีแล้ว เป็นผู้แกล้วกล้า เป็น
พหูสูตเป็นผู้ทรงธรรม ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ย่อมยังหมู่ให้งาม ฯ
บุคคลใด เป็นผู้ฉลาด แกล้วกล้า เป็นพหูสูต ผู้ทรงธรรม
ประพฤติธรรมสมควรแก่ธรรม บุคคลเช่นนั้น เราเรียกว่า
ผู้ยังหมู่ให้งาม ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสกและอุบาสิกา เป็นผู้
มีศรัทธา สมบูรณ์ด้วยศีล เป็นพหูสูตเหล่านี้แล ย่อมยัง
หมู่ให้งาม แท้จริง บุคคลเหล่านี้ เป็นผู้ยังหมู่ให้งาม ฯ
จบสูตรที่ ๗
เวสารัชชสูตร
[๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ตถาคตประกอบด้วยเวสารัชชญาณเหล่าใดย่อมปฏิญาณฐานะ
แห่งผู้เป็นโจก บันลือสีหนาทในบริษัท ประกาศพรหมจักรเวสารัชชญาณของตถาคตมี ๔ ประการ