พระสุตตันตปิฎกไทย: 25/64/55
สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
เสนาสนะและคิลานปัจจัยเภสัชบริขารส่วนพวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชก เป็นผู้อันมหาชน
ไม่สักการะ ไม่เคารพไม่นับถือ ไม่บูชา ไม่ยำเกรง ไม่ได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะและ
คิลานปัจจัยเภสัชบริขาร ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชกเหล่านั้นอดกลั้น
สักการะ ของพระผู้มีพระภาคและของภิกษุสงฆ์ไม่ได้ เห็นภิกษุสงฆ์ในบ้านและในป่าแล้ว ย่อม
ด่า บริภาษ กริ้วกราด เบียดเบียน ด้วยวาจาหยาบคายไม่ใช่ของสัตบุรุษ ฯ
ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว ได้ทรงเปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่า
ท่านทั้งหลาย ผู้อันสุขและทุกข์ถูกต้องแล้วในบ้าน ในป่าไม่ตั้งสุข
และทุกข์นั้นจากตน ไม่ตั้งสุขและทุกข์นั้นจากผู้อื่นผัสสะทั้งหลายย่อม
ถูกต้องเพราะอาศัยอุปธิ ผัสสะทั้งหลายพึงถูกต้องนิพพานอันไม่มีอุปธิ
เพราะเหตุไร ฯ
จบสูตรที่ ๔
๕. อุปาสกสูตร
[๕๕] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวันอารามของท่านอนาถ
บิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ก็สมัยนั้นแล อุบาสกชาวบ้านอิจฉานังคละคนหนึ่ง เดิน
ทางมาถึงพระนครสาวัตถีโดยลำดับ ด้วยกรณียกิจบางอย่าง ครั้งนั้นแล อุบาสกนั้นยังกรณียกิจ
นั้นให้สำเร็จในพระนครสาวัตถีแล้วเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้วนั่ง
ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งพระผู้มีพระภาคได้ตรัสกะอุบาสกนั้นว่า ดูกรอุบาสก ท่านกระทำปริยายนี้
เพื่อมา ณ ที่นี้โดยกาลนานแล อุบาสกนั้นกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ประสงค์
จะเฝ้าเยี่ยมพระผู้มีพระภาคแต่กาลนาน แต่ว่าข้าพระองค์ขวนขวายด้วยกิจที่ต้องทำบางอย่าง จึงไม่
สามารถจะเข้ามาเฝ้าพระผู้มีพระภาคได้
ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว ได้ทรงเปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่า