พระสุตตันตปิฎกไทย: 21/58/54
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต
ภรรยาและสามีทั้งสองเป็นผู้ทุศีล เป็นคนตระหนี่ มักด่าว่า
สมณพราหมณ์ ชื่อว่าเป็นผีมาอยู่ร่วมกัน สามีเป็นผู้ทุศีล
มีความตระหนี่ มักด่าว่าสมณพราหมณ์ ส่วนภรรยาเป็นผู้มี
ศีล รู้ความประสงค์ของผู้ขอ ปราศจากความตระหนี่
ภรรยา นั้นชื่อว่าเทวดาอยู่ร่วมกับสามีผี สามีเป็นผู้มีศีล
รู้ความประสงค์ของผู้ขอ ปราศจากความตระหนี่ ส่วน
ภรรยาเป็นผู้ทุศีล มีความตระหนี่ มักด่าว่าสมณพราหมณ์
ชื่อว่าหญิงผี อยู่ร่วมกับสามีเทวดา ทั้งสองเป็นผู้มีศรัทธา
รู้ความประสงค์ ของผู้ขอ มีความสำรวม เป็นอยู่โดยธรรม
ภรรยาและ สามีทั้งสองนั้น เจรจาถ้อยคำที่น่ารักแก่กัน
และกัน ย่อมมี ความเจริญรุ่งเรืองมาก มีความผาสุก ทั้ง
สองฝ่ายมีศีลเสมอ กัน รักใคร่กันมาก ไม่มีใจร้ายต่อกัน
ครั้นประพฤติธรรม ในโลกนี้แล้ว เป็นผู้มีศีลและวัตรเสมอ
กันย่อมเป็นผู้เสวย กามารมณ์เพลิดเพลินบันเทิงใจอยู่ใน
เทวโลก ฯ
จบสูตรที่ ๓
สังวาสสูตรที่ ๒
[๕๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย การอยู่ร่วม ๔ ประการนี้ ๔ ประการเป็นไฉน คือ ชายผี
อยู่ร่วมกับหญิงผี ๑ ชายผีอยู่ร่วมกับหญิงเทวดา ๑ ชายเทวดาอยู่ร่วมกับหญิงผี ๑ ชายเทวดาอยู่ร่วม
กับหญิงเทวดา ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ชายผีอยู่ร่วมกับหญิงผีอย่างไร สามีในโลกนี้เป็นผู้มักฆ่า
สัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ มีความ
ละโมบ มีจิตพยาบาท มีความเห็นผิด เป็นคนทุศีล มีบาปธรรม มีใจอันมลทิน คือความตระหนี่
ครอบงำ ด่าและบริภาษสมณพราหมณ์ อยู่ครองเรือน แม้ภรรยาของเขาก็เป็นผู้มักฆ่าสัตว์ ฯลฯ
อยู่ครองเรือน ดูกรภิกษุทั้งหลาย ชายผีอยู่ร่วมกับหญิงผีอย่างนี้แล ฯ