พระสุตตันตปิฎกไทย: 15/58/228 229 230 231
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
แสงสว่างในโลก มีกี่อย่าง ข้าพระองค์มาเพื่อทูลถามพระผู้มีพระภาคแล้ว
ไฉนจะพึงทราบข้อนั้นได้ ฯ
[๒๒๘] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า
แสงสว่างในโลกมี ๔ อย่าง อย่างที่ ๕ ไม่มีในโลกนี้ พระอาทิตย์ส่อง
สว่างในกลางวัน พระจันทร์ส่องสว่างในกลางคืน ส่วนไฟส่องสว่าง
ในที่นั้นๆ ทั้งกลางวันและกลางคืน พระสัมพุทธเจ้าประเสริฐสุดกว่า
แสงสว่างทั้งหลายแสงสว่างนี้เป็นยอดเยี่ยม ฯ
ทามลิสูตรที่ ๕
[๒๒๙] ... อารามแห่งอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ครั้ง นั้น ทามลิเทวบุตร
เมื่อราตรีปฐมยามสิ้นไปแล้ว มีวรรณงามยิ่งนัก ยังพระวิหาร เชตวันทั้งสิ้นให้สว่าง เข้าไป
เฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นแล้วก็ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว ได้ยืน ณ ที่ควร
ส่วนข้างหนึ่ง ฯ
[๒๓๐] ทามลิเทวบุตร ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้วได้ภาษิตคาถานี้ ใน
สำนักพระผู้มีพระภาคว่า
พราหมณ์ผู้ไม่เกียจคร้าน พึงทำความเพียรนี้ เขาไม่ปรารถนาภพ
ด้วยเหตุนั้น เพราะละกามได้ขาดแล้ว ฯ
[๒๓๑] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ทามลิ กิจไม่มีแก่พราหมณ์ เพราะว่า พราหมณ์ทำกิจเสร็จแล้ว บุคคล
ยังไม่ได้ท่าจอดในแม่น้ำทั้งหลาย เพียงใด เขาเป็นสัตว์เกิด ต้อง
พยายาม ด้วยตัวทุกอย่าง เพียงนั้น ก็ผู้นั้นได้ท่าเป็นที่จอดแล้ว ยืนอยู่
บนบก ไม่ต้องพยายาม เพราะว่า เขาเป็นผู้ถึงฝั่งแล้ว ฯ
ดูกรทามลิเทวบุตร นี้เป็นข้ออุปมาแห่งพราหมณ์ ผู้มีอาสวะสิ้นแล้ว
มีปัญญาเพ่งพินิจ ฯ