พระสุตตันตปิฎกไทย: 10/55/60      
      สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค
      
     
 
    
        
          
                  ก็คำนี้ว่า เพราะอาศัยลาภจึงเกิดความตกลงใจ เรากล่าวอธิบายดังต่อไปนี้
      ดูกรอานนท์ เธอพึงทราบความข้อนี้โดยปริยายแม้นี้ เหมือนที่เราได้กล่าว ไว้ว่า เพราะ
อาศัยลาภจึงเกิดความตกลงใจ ดูกรอานนท์ ก็ถ้าลาภมิได้มีแก่ใครๆ   ในภพไหนๆ ทั่วไปทุก
แห่งหน เมื่อไม่มีลาภโดยประการทั้งปวง เพราะหมดลาภ    ความตกลงใจจะพึงปรากฏได้บ้างไหม ฯ
      ไม่ได้เลย พระเจ้าข้า ฯ
      เพราะเหตุนั้นแหละ อานนท์ เหตุ นิทาน สมุทัย ปัจจัยแห่งความ  ตกลงใจ ก็คือ
ลาภนั่นเอง ฯ
      ก็คำนี้ว่า เพราะอาศัยการแสวงหาจึงเกิดลาภ เรากล่าวอธิบายดังต่อ  ไปนี้
      ดูกรอานนท์ เธอพึงทราบความข้อนี้ โดยปริยายแม้นี้ เหมือนที่เรา   ได้กล่าวไว้ว่า เพราะ
อาศัยการแสวงหาจึงเกิดลาภ ดูกรอานนท์ ก็ถ้าการแสวงหา มิได้มีแก่ใครๆ ในภพไหนๆ
ทั่วไปทุกแห่งหน เมื่อไม่มีการแสวงหาโดย  ประการทั้งปวง เพราะหมดการแสวงหาลาภจะพึง
ปรากฏได้บ้างไหม ฯ
      ไม่ได้เลย พระเจ้าข้า ฯ
      เพราะเหตุนั้นแหละ อานนท์ เหตุ นิทาน สมุทัย ปัจจัยของลาภ    ก็คือ การแสวงหา
นั่นเอง ฯ
      ก็คำนี้ว่า เพราะอาศัยตัณหาจึงเกิดการแสวงหา เรากล่าวอธิบายดังต่อ   ไปนี้
      ดูกรอานนท์ เธอพึงทราบความข้อนี้โดยปริยายแม้นี้ เหมือนที่เราได้กล่าว   ไว้ว่า เพราะ
อาศัยตัณหาจึงเกิดการแสวงหา ดูกรอานนท์ ก็ถ้าตัณหามิได้มีแก่ใครๆ   ในภพไหนๆ ทั่วไป
ทุกแห่งหน คือ กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา เมื่อ  ไม่มีตัณหาโดยประการทั้งปวง เพราะ
ดับตัณหาเสียได้ การแสวงหาจะพึงปรากฏ   ได้บ้างไหม ฯ
      ไม่ได้เลย พระเจ้าข้า ฯ
      เพราะเหตุนั้นแหละ อานนท์ เหตุ นิทาน สมุทัย ปัจจัยของการ    แสวงหาก็คือตัณหา
นั่นเอง ฯ
 [๖๐] ดูกรอานนท์ ธรรมทั้งสองเหล่านี้ รวมเป็นอันเดียวกันกับเวทนา   โดยส่วนสอง
ด้วยประการดังนี้แล ฯ
      ก็คำนี้ว่า เพราะผัสสะเป็นปัจจัยจึงเกิดเวทนา เรากล่าวอธิบายดังต่อ  ไปนี้