พระสุตตันตปิฎกไทย: 15/54/215 216 217 218 219
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
ปาเถยยสูตรที่ ๙
[๒๑๕] เทวดาทูลถามว่า
อะไรหนอย่อมรวบรวมไว้ซึ่งเสบียง อะไรหนอเป็นที่มานอนแห่ง
โภคทรัพย์ทั้งหลาย อะไรหนอย่อมเสือกไสนรชนไป อะไรหนอ
ละได้ยากในโลก สัตว์เป็นอันมากติดอยู่ในอะไรเหมือนนกติดบ่วง ฯ
[๒๑๖] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า
ศรัทธาย่อมรวบรวมไว้ซึ่งเสบียง ศิริ (คือมิ่งขวัญ) เป็นที่มานอน
แห่งโภคทรัพย์ทั้งหลาย ความอยากย่อมเสือกไสนรชนไป ความอยาก
ละได้ยากในโลก สัตว์เป็นอันมากติดอยู่ในความอยาก เหมือนนก
ติดบ่วง ฯ
ปัชโชตสูตรที่ ๑๐
[๒๑๗] เทวดาทูลถามว่า
อะไรเป็นแสงสว่างในโลก อะไรหนอเป็นธรรมเครื่องตื่นอยู่ในโลก อะไร
หนอเป็นสหายในการงานของผู้เป็นอยู่ด้วยการงาน อะไรหนอเป็น
เครื่องสืบต่อชีวิตของเขา อะไรหนอย่อมพะนอเลี้ยงบุคคลผู้เกียจคร้าน
บ้าง ไม่เกียจคร้านบ้าง บ้างมารดาเลี้ยงดูบุตร เหล่าสัตว์มีชีวิตที่อาศัย
แผ่นดินอาศัยอะไรหนอเลี้ยงชีวิต ฯ
[๒๑๘] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า
ปัญญาเป็นแสงสว่างในโลก สติเป็นธรรมเครื่องตื่นอยู่ในโลก ฝูงโค
เป็นสหายในการงานของผู้เป็นอยู่ด้วยการงาน ไถเป็นเครื่องต่อชีวิต
ของเขา ฝนย่อมเลี้ยงบุคคลผู้เกียจคร้านบ้างไม่เกียจคร้านบ้าง เหมือน
มารดาเลี้ยงบุตร เหล่าสัตว์มีชีวิตที่อาศัยแผ่นดิน อาศัยฝนเลี้ยงชีวิต ฯ
อรณสูตรที่ ๑๑
[๒๑๙] เทวดาทูลถามว่า