พระสุตตันตปิฎกไทย: 14/47/67 68 69
สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
๕. สุนักขัตตสูตร (๑๐๕)
[๖๗] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่กูฏาคารศาลา ในป่ามหาวัน เขต พระนครเวสาลี
ก็สมัยนั้นแล มีภิกษุมากด้วยกันทูลพยากรณ์อรหัตผลในสำนักของพระผู้มีพระภาคว่า พวกข้า
พระองค์รู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้วกิจที่ควรทำได้ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อ
ความเป็นอย่างนี้มิได้มี ฯ
[๖๘] พระสุนักขัตตะ ลิจฉวีบุตร ได้ทราบข่าวว่า มีภิกษุมากด้วยกันได้ ทูลพยากรณ์
อรหัตผล ในสำนักของพระผู้มีพระภาคว่า พวกข้าพระองค์รู้ชัดว่าชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์
อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี จึงเข้าไปเฝ้าพระผู้
มีพระภาคยังที่ประทับ แล้วถวายอภิวาทพระ ผู้มีพระภาค นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง พอนั่ง
เรียบร้อยแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มี พระภาคดังนี้ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ได้ทราบ
ข่าวดังนี้ว่า มีภิกษุมากด้วยกันได้ทูลพยากรณ์อรหัตผลในสำนักของพระผู้มีพระภาคว่า พวกข้า
พระองค์รู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อ
ความเป็นอย่างนี้มิได้มี ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พวกภิกษุที่ทูลพยากรณ์อรหัตผลในสำนักของ
พระผู้มีพระภาคดังนั้น ได้ทูลพยากรณ์อรหัตผลโดยชอบหรือ หรือว่า ภิกษุบางเหล่าในพวกนี้
ได้ทูลพยากรณ์อรหัตผล ด้วยความสำคัญว่าตนได้บรรลุ ฯ
[๖๙] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรสุนักขัตตะ พวกภิกษุที่พยากรณ์อรหัตผลในสำนัก
ของเราว่า พวกข้าพระองค์รู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้ทำเสร็จ
แล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี นั้น มีบางเหล่าในพวกนี้ได้พยากรณ์อรหัตผลโดยชอบ
แท้ แต่ก็มีภิกษุบางเหล่าในที่นี้ได้พยากรณ์อรหัตผล ด้วยความสำคัญว่า ตนได้บรรลุบ้าง