พระสุตตันตปิฎกไทย: 18/43/87      
      สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค
      
     
 
    
        
          
            	 พ. ดูกรภิกษุ เธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน จักษุเที่ยงหรือไม่เที่ยง ฯ
	 ภิ. ไม่เที่ยง พระเจ้าข้า ฯ
	 พ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุขเล่า ฯ
	 ภิ. เป็นทุกข์ พระเจ้าข้า ฯ
	 พ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรหรือ หนอที่จะตาม
เห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตนของเรา ฯ
	 ภิ. ไม่ควรเห็นอย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ
	 พ. หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เที่ยงหรือไม่เที่ยง ฯ
	 ภิ. ไม่เที่ยง พระเจ้าข้า ฯ
	 พ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุขเล่า ฯ
	 ภิ. เป็นทุกข์ พระเจ้าข้า ฯ
	 พ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรหรือ หนอที่จะตาม
เห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตนของเรา ฯ
	 ภิ. ไม่ควรเห็นอย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ
	 พ. ดูกรภิกษุ อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้ ย่อมเบื่อหน่าย  แม้ในจักษุ
แม้ในหู แม้ในจมูก แม้ในลิ้น แม้ในกาย แม้ในใจ เมื่อเบื่อหน่ายย่อมคลายกำหนัด เพราะ
คลายกำหนัดจึงหลุดพ้น เมื่อหลุดพ้นแล้ว ย่อมมีญาณหยั่งรู้ว่าหลุดพ้นแล้ว รู้ชัดว่า ชาติสิ้น
แล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี ฯ
	                จบสูตรที่ ๑๑
	                 จบมิคชาลวรรคที่ ๒
	                 ______________________
	                รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ
	 ๑. มิคชาลสูตรที่ ๑ ๒. มิคชาลสูตรที่ ๒ ๓. สมิทธิสูตรที่ ๑ ๔. สมิทธิ
สูตรที่ ๒  ๕. สมิทธิสูตรที่ ๓ ๖. สมิทธิสูตรที่ ๔  ๗. อุปเสนสูตร ๘. อุปวาณ
สูตร๙. ผัสสายตนสูตรที่ ๑๑๐. ผัสสายตนสูตรที่ ๒   ๑๑. ผัสสายตนสูตรที่ ๓ ฯ
	                 ______________________