พระสุตตันตปิฎกไทย: 13/416/606
สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์
ได้เห็นชนทั้งหลายกำลังช่วยเกณิยชฎิลทำงานอยู่ บางพวกขุดตา บางพวกผ่าฟืน บางพวกล้าง
ภาชนะ บางพวกตั้งหม้อน้ำ บางพวกปูลาดอาสนะ ส่วนเกณิยชฎิลกำลังจัดแจงโรงประรำ
ด้วยตนเอง ครั้นแล้วจึงได้ถามเกณิยชฎิลว่า ท่านเกณิยจักมีอาวาหมงคล หรือวิวาหมงคล หรือ
จักบูชามหายัญ หรือท่านทูลอัญเชิญพระเจ้าพิมพิสารจอมทัพ พระเจ้าแผ่นดินมคธ พร้อมด้วย
พลนิกาย มาเสวยพระกระยาหารในวันพรุ่งนี้. เกณิยชฎิลตอบว่า ข้าแต่ท่านเสละ ข้าพเจ้ามิได้
มีอาวาหมงคล หรือวิวาหมงคล และมิได้ทูลอัญเชิญเสด็จพระเจ้าพิมพิสารจอมทัพพระเจ้าแผ่น
มคธ พร้อมด้วยพลนิกาย มาเสวยพระกระยาหารในวันพรุ่งนี้ แต่ข้าพเจ้าจักบูชามหายัญ คือ
มีพระสมณโคดมศากยบุตร เสด็จออกทรงผนวชจากศากยสกุล เสด็จจาริกมาในอังคุตราปชนบท
พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ มีภิกษุประมาณ ๑๒๕๐ รูป เสด็จถึงอาปณนิคม ก็กิตติศัพท์อันงาม
ของท่านพระโคดมพระองค์นั้น ขจรไปแล้วอย่างนี้ว่า แม้เพราะเหตุนี้ๆ พระผู้มีพระภาคพระองค์
นั้น เป็นพระอรหันต์ ... เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนกธรรม. ท่านพระโคดมพระองค์นั้น
ข้าพเจ้าทูลนิมนต์แล้วเพื่อเสวยภัตตาหารในวันพรุ่งนี้ พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์.
เส. ดูกรท่านเกณิยะ ท่านกล่าวว่า พุทโธ ดังนี้หรือ?
เก. ข้าแต่ท่านเสละ ข้าพเจ้ากล่าวว่า พุทโธ.
เส. ดูกรท่านเกณิยะ ท่านกล่าวว่า พุทโธ ดังนี้หรือ?
เก. ข้าแต่ท่านเสละ ข้าพเจ้ากล่าวว่า พุทโธ.
ครั้งนั้นแล เสลพราหมณ์ได้มีความคิดว่า แม้แต่เสียงว่า พุทโธ นี้แล ก็ยากที่สัตว์
จะพึงได้ในโลก ก็มหาปุริสลักษณะ ๓๒ ประการ อันมาแล้วในมนต์ของเราทั้งหลาย ที่พระมหา
บุรุษประกอบแล้ว ย่อมมีคติเป็น ๒ เท่านั้น ไม่เป็นอย่างอื่น คือ ถ้าอยู่ครองเรือน จะได้เป็น
พระเจ้าจักรพรรดิผู้ทรงธรรม เป็นพระราชาโดยธรรม เป็นใหญ่ในแผ่นดินมีมหาสมุทร ๔ เป็น
ขอบเขต ทรงชนะวิเศษ มีพระราชอาณาจักรมั่นคง สมบูรณ์ด้วยรัตนะ ๗ ประการ คือ จักร
แก้ว ๑ ช้างแก้ว ๑ ม้าแก้ว ๑ แก้วมณี ๑ นางแก้ว ๑ คฤหบดีแก้ว ๑ ปริณายกแก้ว ๑
พระองค์มีพระราชโอรสมากกว่าพัน ล้วนกล้าหาญ มีรูปทรงสมเป็นวีรกษัตริย์ สามารถย่ำยีเสนา
ของข้าศึกได้ พระองค์ทรงชนะโดยธรรม โดยไม่ต้องใช้อาชญา ไม่ต้องใช้ศาสตรา