พระสุตตันตปิฎกไทย: 13/409/594
สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์
ท่านพระโคดมถึงความมีพระอาพาธน้อย ... ทรงพระสำราญ ข้าแต่ท่านพระโคดม พรหมายุพราหมณ์
เป็นคนแก่เฒ่า เป็นผู้ใหญ่ ... ท่านปรารถนาจะมาเฝ้าท่านพระโคดม พระเจ้าข้า พระผู้มีพระภาค
ตรัสว่า ดูกรมาณพ พรหมายุพราหมณ์ ย่อมรู้กาลอันควรในบัดนี้เถิด.
ครั้งนั้นแล มาณพนั้นจึงเข้าไปหาพรหมายุพราหมณ์ถึงที่อยู่ ครั้นแล้วได้กล่าวกะ
พรหมายุพราหมณ์ว่า ท่านเป็นผู้อันพระสมณโคดมทรงประทานโอกาสแล้ว จงรู้กาลอันควร
ในบัดนี้เถิด.
พรหมายุพราหมณ์ขอดูพระชิวหาและพระคุยหะ
[๕๙๔] ลำดับนั้น พรหมายุพราหมณ์ ได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค. บริษัทนั้นได้เห็น
พรหมายุพราหมณ์มาแต่ไกล จึงรีบลุกขึ้นให้โอกาสตามสมควรแก่ผู้มีชื่อเสียง มียศ. ครั้งนั้น
พรหมายุพราหมณ์ได้กล่าวกะบริษัทนั้นว่า อย่าเลยท่านผู้เจริญทั้งหลาย เชิญท่านทั้งหลายนั่งบน
อาสนะของตนๆ เราจักนั่งในสำนักแห่งพระสมณโคดมนี้. ลำดับนั้น พรหมายุพราหมณ์ได้เข้าไป
เฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ได้ปราศรัยกับพระผู้มีพระภาค ครั้นผ่านการปราศรัยพอให้ระลึก
ถึงกันไปแล้ว จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง. ครั้นแล้วพิจารณาดูมหาปุริสลักษณะ ๓๒ ประการ
ในพระกายของพระผู้มีพระภาค. ได้เห็นมหาปุริสลักษณะ ๓๒ ประการโดยมากเว้นอยู่ ๒ ประการ
คือ พระคุยหฐานอันเร้นอยู่ในฝัก ๑ พระชิวหาใหญ่ ๑ จึงยังเคลือบแคลง สงสัย ไม่น้อมใจ
เชื่อ ไม่เลื่อมใสในพระมหาปุริสลักษณะ ๒ ประการ. ลำดับนั้น พรหมายุพราหมณ์ได้กราบทูล
พระผู้มีพระภาคด้วยคาถาว่า
ข้าแต่พระโคดม มหาปุริสลักษณะ อันข้าพเจ้าได้สดับมาว่า
๓๒ ประการ แต่ยังไม่เห็นอยู่ ๒ ประการในพระกายของ
พระองค์ท่าน ข้าแต่พระองค์ผู้สูงสุดกว่านรชน พระคุยหฐาน
ของพระองค์ท่านเร้นอยู่ในฝัก ที่ผู้ฉลาดกล่าวว่า คล้ายนารีหรือ
พระชิวหาได้นรลักษณ์หรือ พระองค์มีพระชิวหาใหญ่หรือ ไฉน