พระสุตตันตปิฎกไทย: 14/388/818

สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
เล่ม 14
หน้า 388
อาศัยชิวหาและลิ้นเกิดชิวหาวิญญาณ ... อาศัยกายและโผฏฐัพพะเกิดกายวิญญาณ ... อาศัยมโนและธรรมารมณ์เกิดมโนวิญญาณ ความประจวบของธรรมทั้ง ๓เป็นผัสสะ เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตัณหาข้อที่เรากล่าวดังนี้ว่า พึง ทราบหมวดตัณหา ๖ นั่น เราอาศัยตัณหาดังนี้ กล่าวแล้ว นี้ธรรมหมวดหก หมวดที่ ๖ ฯ
[๘๑๘] ผู้ใดกล่าวอย่างนี้ว่า จักษุเป็นอัตตา คำของผู้นั้นไม่ควร จักษุย่อมปรากฏแม้ ความเกิด แม้ความเสื่อม ก็สิ่งใดแล ปรากฏแม้ความเกิด แม้ความเสื่อม สิ่งนั้นต้องกล่าวได้ อย่างนี้ว่า อัตตาของเราเกิดขึ้นและเสื่อมไป เพราะฉะนั้น คำของผู้ที่กล่าวว่าจักษุเป็นอัตตานั้นจึง ไม่ควร ด้วยประการฉะนี้ จักษุจึง เป็นอนัตตา ผู้ใดกล่าวว่า รูปเป็นอัตตา คำของผู้นั้นไม่ควร รูปย่อมปรากฏแม้ความ เกิด แม้ความ เสื่อม ก็สิ่งใดแล ปรากฏแม้ความเกิด แม้ความเสื่อม สิ่งนั้น ต้องกล่าวได้อย่างนี้ว่า อัตตาของ เราเกิดขึ้นและเสื่อมไป เพราะฉะนั้น คำของผู้ที่ กล่าวว่า รูปเป็นอัตตานั้นจึงไม่ควร ด้วยประการ ฉะนี้ จักษุจึงเป็นอนัตตา รูปจึงเป็นอนัตตา ผู้ใดกล่าวว่า จักษุวิญญาณเป็นอัตตา คำของผู้นั้นไม่ควร จักษุวิญญาณ ย่อมปรากฏแม้ ความเกิด แม้ความเสื่อม ก็สิ่งใดแลปรากฏแม้ความเกิด แม้ความ เสื่อม สิ่งนั้นต้องกล่าวได้ อย่างนี้ว่า อัตตาของเราเกิดขึ้นและเสื่อมไป เพราะฉะนั้นคำของผู้ที่กล่าวว่าจักษุวิญญาณเป็น อัตตานั้น จึงไม่ควร ด้วยประการฉะนี้ จักษุจึง เป็นอนัตตา รูปจึงเป็นอนัตตา จักษุวิญญาณจึง เป็นอนัตตา ผู้ใดกล่าวว่า จักษุสัมผัสเป็นอัตตา คำของผู้นั้นไม่ควร จักษุสัมผัสย่อมปรากฏแม้ ความเกิด แม้ความเสื่อม ก็สิ่งใดแล ปรากฏแม้ความเกิด แม้ความเสื่อม สิ่งนั้นต้องกล่าวได้ อย่างนี้ว่า อัตตาของเราเกิดขึ้นแลเสื่อมไป เพราะฉะนั้นคำของผู้ที่กล่าวว่าจักษุสัมผัสเป็นอัตตา นั้น จึงไม่ควร ด้วยประการฉะนี้ จักษุจึง เป็นอนัตตา รูปจึงเป็นอนัตตา จักษุวิญญาณจึงเป็น อนัตตา จักษุสัมผัสจึงเป็นอนัตตา ผู้ใดกล่าวว่า เวทนาเป็นอัตตา คำของผู้นั้นไม่ควร เวทนาย่อมปรากฏ แม้ความเกิด แม้ความเสื่อม ก็สิ่งใดแล ปรากฏแม้ความเกิด แม้ความเสื่อมสิ่งนั้นต้องกล่าวได้อย่างนี้ว่า อัตตาของเราเกิดขึ้นและเสื่อมไป เพราะฉะนั้น คำ ของผู้ที่กล่าวว่าเวทนาเป็นอัตตา นั้น จึงไม่ ควร ด้วยประการฉะนี้ จักษุจึงเป็นอนัตตา รูปจึงเป็นอนัตตา จักษุวิญญาณจึงเป็นอนัตตา จักษุ สัมผัสจึงเป็นอนัตตาเวทนาจึงเป็นอนัตตา