พระสุตตันตปิฎกไทย: 25/385/421
สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
ความร่าเริง การเล่นเมถุนธรรมกับทั้งการประดับ ภิกษุผู้นับถือ
พระพุทธเจ้าว่าเป็นของเรา ไม่พึงประกอบอาถรรพ์ ตำราทำนายฝัน
ทำนายลักษณะนักขัตฤกษ์ การทำนายเสียงสัตว์ร้อง การทำยาให้หญิง
มีครรภ์ และการเยียวยารักษา ภิกษุไม่พึงหวั่นไหวเพราะนินทา เมื่อเขา
สรรเสริญก็ไม่พึงเห่อเหิม พึงบรรเทาความโลภ พร้อมทั้งความตระหนี่
ความโกรธและคำส่อเสียดเสีย ภิกษุไม่พึงขวนขวายในการซื้อการขาย
ไม่พึงกระทำการกล่าวติเตียนในที่ไหนๆ และไม่พึงคลุกคลีในชาวบ้าน
ไม่พึงเจรจากะชนเพราะความใคร่ลาภ ภิกษุไม่พึงเป็นผู้พูดโอ้อวด ไม่พึง
กล่าววาจาประกอบปัจจัยมีจีวรเป็นต้น ไม่พึงศึกษาความเป็นผู้คะนอง
ไม่พึงกล่าวถ้อยคำเถียงกัน ภิกษุพึงเป็นผู้มีสัมปชัญญะ ไม่พึงนิยม
ในการกล่าวมุสา ไม่พึงกระทำความโอ้อวด อนึ่ง ไม่พึงดูหมิ่นผู้อื่น
ด้วยความเป็นอยู่ปัญญา ศีลและพรต ภิกษุถูกผู้อื่นเสียดสีแล้ว
ได้ฟังวาจามากของสมณะทั้งหลายหรือของชนผู้พูดมาก ไม่พึงโต้ตอบ
ด้วยคำหยาบ เพราะสัตบุรุษทั้งหลายย่อมไม่กระทำความเป็นข้าศึก ภิกษุรู้
ทั่วถึงธรรมนี้แล้ว ค้นคว้าพิจารณาอยู่ รู้ความดับกิเลสว่าเป็นความ
สงบดังนี้แล้ว พึงเป็นผู้มีสติศึกษาทุกเมื่อ ไม่พึงประมาทในศาสนา
ของพระโคดม ก็ภิกษุนั้นพึงเป็นผู้ครอบงำอารมณ์มีรูปเป็นต้น อัน
อารมณ์มีรูปเป็นต้นครอบงำไม่ได้ เป็นผู้เห็นธรรมที่ตนเห็นเอง ประจักษ์
แก่ตนเพราะเหตุนั้นแล ภิกษุผู้ไม่ประมาท พึงนอบน้อมศึกษาไตรสิกขา
อยู่เนืองๆ ในศาสนาของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นทุกเมื่อเทอญ ฯ
จบตุวฏกสูตรที่ ๑๔