พระสุตตันตปิฎกไทย: 22/382/346 347
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
อรหันตวรรคที่ ๓
๑. ทุกขสูตร
[๓๔๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ ย่อมอยู่เป็นทุกข์
มีความเดือดร้อน คับแค้น เร่าร้อน ในปัจจุบันเทียว เมื่อตายไปพึงหวังได้ทุคติ ธรรม ๖
ประการเป็นไฉน คือ กามวิตก ๑ พยาบาทวิตก ๑วิหิงสาวิตก ๑ กามสัญญา ๑
พยาบาทสัญญา ๑ วิหิงสาสัญญา ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการนี้แล
ย่อมอยู่เป็นทุกข์ มีความเดือดร้อน คับแค้น เร่าร้อน ในปัจจุบันเทียว เมื่อตายไป พึงหวัง
ได้ทุคติ ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ ย่อมอยู่เป็นสุข ไม่เดือดร้อน
ไม่คับแค้น ไม่เร่าร้อน ในปัจจุบันเทียว เมื่อตายไป พึงหวังได้สุคติ ธรรม ๖ ประการเป็น
ไฉน คือ เนกขัมมวิตก ๑ อัพยาบาทวิตก ๑ อวิหิงสาวิตก ๑ เนกขัมมสัญญา ๑ อัพยาบาท
สัญญา ๑ อวิหิงสาสัญญา ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๖ ประการนี้แล
ย่อมอยู่เป็นสุข ไม่เดือดร้อนไม่คับแค้น ไม่เร่าร้อน ในปัจจุบันเทียว เมื่อตายไป พึง
หวังได้สุคติ ฯ
จบสูตรที่ ๑
๒. อรหัตตสูตร
[๓๔๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่ละธรรม ๖ ประการ ย่อมเป็นผู้ไม่ควรเพื่อทำ
ให้แจ้งซึ่งอรหัต ธรรม ๖ ประการเป็นไฉน คือ มานะ ความถือตัว ๑ โอมานะ ความสำคัญ
ว่าเลวกว่าเขา ๑ อติมานะ ความเย่อหยิ่ง ๑อธิมานะ ความเข้าใจผิด ๑ ถัมภะความหัวดื้อ ๑
อตินิปาตะ ความดูหมิ่นตนเองว่าเป็นคนเลว ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่ละธรรม ๖ ประการ
นี้แลย่อมเป็นผู้ไม่ควร เพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งอรหัต ฯ