พระสุตตันตปิฎกไทย: 12/382/498 499 500
สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์
เรื่องภพและฌาน
[๔๙๘] ก. ดูกรท่านผู้มีอายุ ภพมีเท่าไร?
สา. ภพมี ๓ คือ กามภพ รูปภพ และอรูปภพ.
ก. ความเกิดในภพใหม่ในอนาคต มีได้อย่างไร?
สา. ความยินดียิ่งในอารมณ์นั้นๆ ของเหล่าสัตว์ที่มีอวิชชาเป็นเครื่องกีดกัน มีตัณหาเป็น
เครื่องประกอบไว้ ความเกิดในภพใหม่ในอนาคตมีได้อย่างนี้.
ก. ความเกิดในภพใหม่ในอนาคต จะไม่มีอย่างไร?
สา. เพราะความสิ้นแห่งอวิชชา เพราะความเกิดขึ้นแห่งอวิชชา และเพราะความดับแห่ง
ตัณหา อย่างนี้ ความเกิดในภพใหม่ในอนาคต จึงจะไม่มี.
[๔๙๙] ก. ดูกรท่านผู้มีอายุ ปฐมฌาน เป็นไฉน?
สา. ดูกรท่านผู้มีอายุ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม บรรลุ
ปฐมฌาน มีวิตก มีวิจาร มีปีติและสุขอันเกิดแต่วิเวกอยู่ ฌานนี้พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ปฐมฌาน.
ก. ปฐมฌาน มีองค์เท่าไร?
สา. ปฐมฌาน มีองค์ ๕ คือ วิตก ๑ วิจาร ๑ ปีติ ๑ สุข ๑ เอกัคคตา ๑ ย่อมเป็นไปแก่
ภิกษุผู้เข้าปฐมฌานมีองค์ ๕ ปฐมฌานมีองค์ ๕ อย่างนี้แล.
ก. ปฐมฌาน ละองค์เท่าไร ประกอบด้วยองค์เท่าไร?
สา. ปฐมฌานละองค์ ๕ ประกอบด้วยองค์ ๕ ภิกษุในธรรมวินัยนี้เข้าปฐมฌาน ละกาม
ฉันท์ได้แล้ว ละพยาบาทได้แล้ว ละถีนมิทธะได้แล้ว ละอุทธัจจกุกกุจจะได้แล้ว ละวิจิกิจฉาได้
แล้ว มีวิตก ๑ วิจาร ๑ ปีติ ๑ สุข ๑ เอกัคคตา ๑ เป็นไปอยู่ ปฐมฌานละองค์ ๕ ประกอบด้วย
องค์ ๕ อย่างนี้แล.
เรื่องอินทรีย์ ๕
[๕๐๐] ก. ดูกรท่านผู้มีอายุ อินทรีย์ ๕ ประการนี้ คือ จักขุนทรีย์ ๑ โสตินทรีย์ ๑
ฆานินทรีย์ ๑ ชิวหินทรีย์ ๑ กายินทรีย์ ๑ มีวิสัยต่างกัน มีโคจรต่างกัน ไม่รับรู้วิสัยอันเป็นโคจร
ของกันและกัน เมื่ออินทรีย์ ๕ ประการนี้ มีวิสัยต่างกัน มีโคจรต่างกัน ไม่รับรู้วิสัยอันเป็น
โคจรของกันและกัน จะมีอะไรเป็นที่อาศัย และธรรมอะไรรับรู้วิสัยอันเป็นโคจรแห่งอินทรีย์
เหล่านั้น?