พระสุตตันตปิฎกไทย: 18/375/752 753 754      
      สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค
      
     
 
    
        
          
            อัพยากตสังยุตต์
เขมาเถรีสูตร
 [๗๕๒] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่าน
อนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ก็สมัยนั้นแล พระเขมาภิกษุณีเมื่อเที่ยวจาริกไปใน
แคว้นโกศล เข้าอยู่ ณ ที่โตรณวัตถุ  ในระหว่างพระนครสาวัตถีกับเมืองสาเกต ครั้งนั้น
พระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จออกจากเมืองสาเกตจะไปยังพระนครสาวัตถี ประทับแรม ๑ ราตรีที่
โตรณวัตถุ ระหว่างพระนครสาวัตถีกับเมืองสาเกต ครั้งนั้นแล พระเจ้าปเสนทิโกศลตรัสเรียก
ราชบุรุษคนหนึ่งมาตรัสสั่งว่า ดูกรบุรุษผู้เจริญ ท่านจงไปดูให้รู้ว่า ณ ที่โตรณวัตถุมีสมณะหรือ
พราหมณ์ซึ่งสมควรที่เราจะพึงเข้าไปหา ณ วันนี้หรือไม่ ราชบุรุษนั้นทูลรับพระดำรัสของพระเจ้า
ปเสนทิโกศลแล้ว เที่ยวไปยังโตรณวัตถุจนทั่ว ก็ไม่ได้พบเห็นสมณะหรือพราหมณ์ซึ่งสมควรที่
พระเจ้าปเสนทิโกศลจะพึงเสด็จเข้าไปหา ฯ
 [๗๕๓] ราชบุรุษนั้นได้พบพระเขมาภิกษุณี ซึ่งเข้าอาศัยอยู่ ที่โตรณวัตถุ  ครั้นพบแล้ว
ได้เข้าไปเฝ้าพระเจ้าปเสนทิโกศลถึงที่ประทับ ครั้นแล้วได้กราบทูลพระเจ้าปเสนทิโกศลว่า พระ
พุทธเจ้าข้า ที่โตรณวัตถุ ไม่มีสมณะหรือพราหมณ์ซึ่งสมควรที่พระองค์จะพึงเสด็จเข้าไปหา
เลย มีภิกษุณีนามว่าเขมา เป็นสาวิกาของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
และพระแม่เจ้านั้นมีกิตติศัพท์อันงามฟุ้งขจรไปแล้วอย่างนี้ว่า พระแม่เจ้าเขมาภิกษุณีเป็นบัณฑิต
เฉียบแหลมมีปัญญา เป็นพหูสูต มีถ้อยคำไพเราะ มีปฏิภาณเป็นอย่างดี ขอเชิญพระองค์เสด็จ
เข้าไปหาพระแม่เจ้านั้นเถิด ขอเดชะ ฯ
 [๗๕๔] ครั้งนั้นแล พระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จเข้าไปหาพระเขมาภิกษุณีถึงที่อยู่ ทรง
ไหว้พระเขมาภิกษุณีแล้ว ประทับอยู่ ณ ที่สมควรส่วนข้างหนึ่ง  ครั้นแล้วได้ตรัสถามพระเขมา
ภิกษุณีว่า ข้าแต่แม่เจ้า สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายแล้วย่อมเกิดหรือหนอ พระเขมาภิกษุณีถวาย
พระพรว่า ขอถวายพระพร ปัญหานี้เป็นปัญหาที่พระผู้มีพระภาคมิได้ทรงพยากรณ์ ฯ