พระสุตตันตปิฎกไทย: 22/372/335
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
หากว่า ชนเหล่าอื่นย่อมเข้ามาถามปัญหากับตถาคต ด้วยความรู้ตามเป็นจริง ซึ่งความ
ระลึกชาติก่อนได้ไซร้ ความรู้ตามเป็นจริง ซึ่งความระลึกชาติก่อนได้อันตถาคตทราบชัดด้วย
ประการใดๆ ตถาคตถูกถามปัญหาแล้ว ย่อมพยากรณ์ด้วยความรู้ตามเป็นจริง ซึ่งความระลึกชาติ
ก่อนได้ แก่ชนเหล่านั้น ด้วยประการนั้นๆ ฯ
หากว่า ชนเหล่าอื่นย่อมเข้ามาถามปัญหากับตถาคต ด้วยความรู้ตามเป็นจริงซึ่งจุติและ
อุบัติของสัตว์ทั้งหลายไซร้ ความรู้ตามเป็นจริง ซึ่งจุติและอุบัติของสัตว์ทั้งหลาย อันตถาคต
ทราบชัดด้วยประการใดๆ ตถาคตถูกถามปัญหาแล้ว ย่อมพยากรณ์ด้วยความรู้ตามเป็นจริง ซึ่ง
จุติและอุบัติของสัตว์ทั้งหลาย แก่ชนเหล่านั้นด้วยประการนั้นๆ ฯ
หากว่า ชนเหล่าอื่นย่อมเข้ามาถามปัญหากับตถาคต ด้วยความรู้ตามเป็นจริง ซึ่งความ
สิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลายไซร้ ความรู้ตามเป็นจริง ซึ่งความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย อันตถาคต
ทราบชัดด้วยประการใดๆ ตถาคตถูกถามปัญหาแล้วย่อมพยากรณ์ด้วยความรู้ตามเป็นจริง ซึ่ง
ความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย แก่ชนเหล่านั้น ด้วยประการนั้นๆ ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมกล่าวแม้ซึ่งความรู้ตามเป็นจริงซึ่งฐานะ โดยความเป็นฐานะ
และเหตุที่มิใช่ฐานะโดยความเป็นเหตุมิใช่ฐานะนั้นว่า เป็นของบุคคลผู้มีใจตั้งมั่น ย่อมไม่กล่าวว่า
เป็นของบุคคลผู้มีใจไม่ตั้งมั่น เราย่อมกล่าวแม้ความรู้ตามเป็นจริงซึ่งวิบากแห่งกรรมสมาทาน ที่
เป็นอดีต อนาคต และปัจจุบันโดยปัจจัยโดยเหตุนั้นว่า เป็นของบุคคลผู้มีใจตั้งมั่น ย่อมไม่
กล่าวว่า เป็นของบุคคลผู้มีใจไม่ตั้งมั่น เราย่อมกล่าวแม้ความรู้ตามเป็นจริง ซึ่งความเศร้าหมอง
ความผ่องแผ้ว ความออกแห่งฌาน วิโมกข์ สมาธิ และสมาบัตินั้นว่า เป็นของบุคคลผู้มีใจ
ตั้งมั่น ย่อมไม่กล่าวว่า เป็นของบุคคลผู้มีใจไม่ตั้งมั่น เราย่อมกล่าวแม้ความรู้ตามเป็นจริง ซึ่ง
ความระลึกชาติก่อนได้นั้นว่าเป็นของบุคคลผู้มีใจตั้งมั่นย่อมไม่กล่าวว่า เป็นของบุคคลผู้มีใจไม่
ตั้งมั่น เราย่อมกล่าวแม้ความรู้ตามเป็นจริงซึ่งจุติและอุบัติของสัตว์ทั้งหลายนั้นว่า เป็นของบุคคล
ผู้มีใจตั้งมั่น ย่อมไม่กล่าวว่าเป็นของบุคคลผู้มีใจไม่ตั้งมั่น เราย่อมกล่าวแม้ความรู้ตามเป็นจริง
ซึ่งความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลายนั้นว่าเป็นของบุคคลผู้มีใจตั้งมั่น ย่อมไม่กล่าวว่าเป็นของ
บุคคลผู้มีใจไม่ตั้งมั่น ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความตั้งใจมั่นเป็นทางถูก ความไม่ตั้งใจมั่นเป็นทางผิด
ด้วยประการฉะนี้แล ฯ
จบสูตรที่ ๑๐
จบมหาวรรคที่ ๑
__________________