พระสุตตันตปิฎกไทย: 25/370/416
สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
สรีระแห่งธิดาของท่านอันเต็มไปด้วยมูตรและคูถเล่า เราไม่ปรารถนาจะ
ถูกต้องสรีระแห่งธิดาของท่านนั้นแม้ด้วยเท้า ฯ
มาคันทิยพราหมณ์ทูลว่า
ถ้าพระองค์ไม่ทรงปรารถนานางแก้วเช่นนี้ ที่พระราชาผู้เป็นจอมนระเป็น
อันมากทรงปรารถนากันแล้วไซร้ พระองค์ตรัสทิฐิ ศีล พรต ชีวิต
และการเข้าถึงภพของพระองค์เช่นไรหนอ ฯ
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรมาคันทิยะ
กิจที่เราวินิจฉัยในธรรม คือ ทิฐิ ๖๒ แล้วจึงยึดถือเอาว่าเรากล่าว
ทิฐินี้ว่า ข้อนี้เท่านั้นจริง ข้ออื่นเปล่า ดังนี้ ย่อมไม่มีแก่เราและเรา
เห็นโทษในทิฐิทั้งหลายอยู่ ไม่ได้ยึดถือทิฐิอะไรๆ เมื่อค้นคว้าสัจจะ
ทั้งหลาย ก็ได้เห็นนิพพานกล่าวคือความสงบ ณ ภายใน ฯ
มาคันทิยพราหมณ์ทูลว่า
ทิฐิเหล่าใด ที่สัตว์ทั้งหลายได้วินิจฉัยกำหนดไว้แล้ว ข้าแต่พระองค์
ผู้เป็นมุนี พระองค์ไม่ได้ยึดถือทิฐิเหล่านั้นเลย ตรัสเนื้อความนี้ได้ว่า
ความสงบ ณ ภายใน เนื้อความนั้นอันนักปราชญ์ทั้งหลายประกาศไว้
อย่างไรหนอ ขอพระองค์จงตรัสบอกแก่ข้าพระองค์เถิด ฯ
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรมาคันทิยะ
เราไม่ได้กล่าวความบริสุทธิ์ด้วยการเห็น การฟัง การรู้ ทั้งด้วยศีลและ
พรต เราไม่กล่าวความบริสุทธิ์เว้นจากการเห็นจากการฟัง จากการรู้
จากศีลและพรต ก็บุคคลสละธรรมเป็นไปในฝ่ายดำมีทิฐิเป็นต้น
เหล่านี้แล้ว ไม่ถือมั่น เป็นผู้สงบไม่อาศัยธรรมอะไรแล้วไม่พึงปรารถนา
ภพ ฯ
มาคันทิยพราหมณ์ทูลว่า
ได้ยินว่า ถ้าพระองค์ไม่ตรัสความบริสุทธิ์ด้วยการเห็น การฟัง การรู้
ทั้งศีลและพรต พระองค์ไม่ตรัสความบริสุทธิ์เว้นจากการเห็น จาก