พระสุตตันตปิฎกไทย: 14/364/763 764 765      
      สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
      
     
 
    
        
          
            อึดอัดเกลียดชังร่างกายและชีวิต  พากันแสวงหาศาตราสังหารชีพอยู่แล  เราไม่ต้องแสวงหาสิ่ง
ดังนั้นเลย  ก็ได้ศาตราสังหารชีพแล้วข้าแต่พระผู้มีพระภาคผู้สุคต  ข้าพระองค์จักมีความคิดใน
มนุษย์พวกนั้นอย่างนี้  ฯ
 [๗๖๓]  พ.  ดีละๆ  ปุณณะ  เธอประกอบด้วยทมะและอุปสมะดังนี้แล้ว  จักอาจเพื่อจะ
อยู่ในสุนาปรันตชนบทได้แล  ดูกรปุณณะ  เธอจงสำคัญกาลที่ควรในบัดนี้เถิด  ฯ
	ครั้งนั้นแล  ท่านพระปุณณะยินดีอนุโมทนาพระภาษิตของพระผู้มีพระภาคแล้ว  ลุกจาก
อาสนะ  ถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาคทำประทักษิณ  แล้วเก็บเสนาสนะถือบาตรจีวรเดินทางจาริก
ไปยังที่ตั้งสุนาปรันตชนบท  เมื่อจาริกไปโดยลำดับ  ได้ลุถึงสุนาปรันตชนบทแล้ว  ฯ
 [๗๖๔]  เป็นอันว่า  ท่านพระปุณณะอยู่ในสุนาปรันตชนบทนั้น  ครั้งนั้นแล  ท่านพระ
ปุณณะได้ให้พวกมนุษย์ชาวสุนาปรันตชนบทกลับใจแสดงตนเป็น  อุบาสกประมาณ  ๕๐๐  คน  ภาย
ในพรรษานั้นเอง  กลับใจแสดงตนเป็นอุบาสิกา  ประมาณ  ๕๐๐  คน  ภายในพรรษานั้นเอง  และ
ตัวท่านได้ทำให้แจ้งซึ่งวิชชา  ๓ภายในพรรษานั้นเหมือนกัน  ครั้นสมัยต่อมา  ท่านได้ปรินิพพาน
แล้ว  ฯ
	ครั้งนั้นแล  ภิกษุมากด้วยกันเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคยังที่ประทับ  แล้วถวายอภิวาท
พระผู้มีพระภาค  นั่ง  ณ  ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง  พอนั่งเรียบร้อยแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้
ว่า  ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ  กุลบุตรชื่อปุณณะที่พระผู้มีพระภาคทรงสั่งสอนด้วยพระโอวาทย่อๆ  นั้น
ทำกาละเสียแล้ว  เธอมีคติ  เป็นอย่างไร  มีสัมปรายภพเป็นอย่างไร  ฯ
 [๗๖๕]  พ.  ดูกรภิกษุทั้งหลาย  ปุณณกุลบุตร  เป็นบัณฑิต  ได้บรรลุธรรมสมควรแก่
ธรรมแล้ว  ทั้งไม่ให้เราลำบากเพราะเหตุแห่งธรรม  ดูกรภิกษุทั้งหลาย  ปุณณกุลบุตรปรินิพพาน
แล้ว  ฯ
	พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระภาษิตนี้แล้ว  ภิกษุเหล่านั้นต่างชื่นชมยินดี  พระภาษิตของ
พระผู้มีพระภาคแล  ฯ
	    จบ  ปุณโณวาทสูตร  ที่  ๓
	    _______________