พระสุตตันตปิฎกไทย: 19/36/151 152 153 154 155      
      สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค
      
     
 
    
        
          
            		         อัตตสัมปทาสูตรที่ ๑
		  อัตตสัมปทามีอุปการะมากแก่อริยมรรค
 [๑๕๑] ... คือ ความถึงพร้อมแห่งตน ฯลฯ
		           จบ สูตรที่ ๔
		         ทิฏฐิสัมปทาสูตรที่ ๑
		  ทิฏฐิสัมปทามีอุปการะมากแก่อริยมรรค
 [๑๕๒] ... คือ ความถึงพร้อมแห่งทิฏฐิ ฯลฯ
		           จบ สูตรที่ ๕
		          อัปปมาทสูตรที่ ๑
		ความไม่ประมาทมีอุปการะมากแก่อริยมรรค
 [๑๕๓] ... คือ ความถึงพร้อมแห่งความไม่ประมาท ฯลฯ
		           จบ สูตรที่ ๖
		     โยนิโสมนสิการสัมปทาสูตรที่ ๑
		 โยนิโสมนสิการมีอุปการะมากแก่อริยมรรค
 [๑๕๔] สาวัตถีนิทาน. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมอันหนึ่งมีอุปการะมาก เพื่อความเกิด
ขึ้นแห่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ธรรมอันหนึ่งเป็นไฉน? คือ ความถึงพร้อมแห่งการ
กระทำไว้ในใจโดยแยบคาย ดูกรภิกษุทั้งหลาย อันภิกษุผู้ถึงพร้อมด้วยการกระทำไว้ในใจโดย
แยบคาย พึงหวังข้อนี้ได้ว่า จักเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ จักกระทำให้มากซึ่ง
อริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘.
 [๑๕๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ถึงพร้อมด้วยการกระทำไว้ในใจโดยแยบคาย ย่อม
เจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ย่อมกระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ อย่าง
ไรเล่า? ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเจริญสัมมาทิฏฐิ อันอาศัยวิเวก อาศัย
วิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ ฯลฯ ย่อมเจริญสัมมาสมาธิ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ
อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ถึงพร้อมด้วยการกระทำไว้ในใจโดย
แยบคาย ย่อมเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ย่อมกระทำให้มาก ซึ่งอริยมรรคอันประกอบ
ด้วยองค์ ๘ อย่างนี้แล.
		           จบ สูตรที่ ๗