พระสุตตันตปิฎกไทย: 14/357/745 746 747 748 749      
      สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
      
     
 
    
        
          
            
 [๗๔๕]  ข้าแต่ท่านพระสารีบุตร  ลมเหลือประมาณปั่นป่วนท้องของ  กระผม  เหมือนคน
ฆ่าโค  หรือลูกมือของคนฆ่าโคผู้ฉลาด  เอามีดแล่โคอันคมคว้าน  ท้อง  ฉะนั้น  กระผมจึงทนไม่ไหว
เป็นไปไม่ไหว  ทุกขเวทนาของกระผมหนักกำเริบ  ไม่ทุเลา  ปรากฏความกำเริบเป็นที่สุด
ไม่ปรากฏความทุเลาเลย  ฯ
 [๗๔๖]  ข้าแต่ท่านพระสารีบุตร  ความร้อนในกายของกระผมเหลือประมาณ  เหมือน
บุรุษมีกำลัง  ๒  คน  จับบุรุษมีกำลังน้อยที่อวัยวะป้องกันตัวต่างๆแล้ว  นาบ  ย่าง  ในหลุมถ่านเพลิง
ฉะนั้น  กระผมจึงทนไม่ไหว  เป็นไปไม่ไหวทุกขเวทนาของกระผมหนัก  กำเริบ  ไม่ทุเลา
ปรากฏความกำเริบเป็นที่สุด  ไม่ปรากฏความทุเลาเลย  ข้าแต่ท่านพระสารีบุตร  กระผมจักหาศาตรา
มาฆ่าตัว  ไม่อยากจะได้เป็นอยู่เลย  ฯ
 [๗๔๗]  สา.  ท่านฉันนะอย่าได้หาศาตรามาฆ่าตัวเลย  จงเป็นอยู่ก่อนเถิด  พวกเรายัง
ปรารถนาให้ท่านฉันนะเป็นอยู่  ถ้าท่านฉันนะไม่มีโภชนะเป็นที่สบาย  ผมจักแสวงหามาให้
ถ้าท่านฉันนะไม่มีเภสัชเป็นที่สบาย  ผมจักแสวงหามาให้ถ้าท่านฉันนะไม่มีคนบำรุงที่สมควร
ผมจักคอยบำรุงท่านเอง  ท่านฉันนะอย่าได้หาศาตรามาฆ่าตัวเลย  จงเป็นอยู่ก่อนเถิด  พวกเรา
ยังปรารถนาให้ท่านฉันนะเป็นอยู่  ฯ
 [๗๔๘]  ฉ.  ข้าแต่ท่านพระสารีบุตร  ไม่ใช่กระผมไม่มีโภชนะเป็นที่สบาย  ไม่ใช่ไม่มี
เภสัชเป็นที่สบาย  ไม่ใช่ไม่มีคนบำรุงที่สมควร  ก็แหละกระผมได้ปรนนิบัติพระศาสดามาตลอด
กาลนาน  ด้วยความพอพระทัย  มิใช่ด้วยความไม่พอพระทัย  ความจริงการที่ภิกษุปรนนิบัติ
พระศาสดาด้วยความพอพระทัย  มิใช่ด้วยความไม่พอพระทัย  นั่นเป็นการสมควรแก่สาวก
ข้าแต่ท่านพระสารีบุตรขอท่านจงทรงจำไว้อย่างนี้ว่า  ฉันนภิกษุจักหาศาตรามาฆ่าตัว  อย่างมิให้
ถูกตำหนิได้  ฯ
	สา.  พวกเราจักขอถามปัญหาท่านฉันนะสักเล็กน้อย  ถ้าท่านฉันนะเปิดโอกาสพยากรณ์
ปัญญาได้  ฯ
	ฉ.  ข้าแต่ท่านพระสารีบุตร  โปรดถามเถิด  กระผมฟังแล้วจึงจักรู้  ฯ
 [๗๔๙]  ดูกรท่านฉันนะ  ท่านพิจารณาเห็นจักษุ  จักษุวิญญาณ  ธรรมที่รู้ได้ด้วยจักษุ
วิญญาณว่า  นั่นของเรา  นั่นเรา  นั่นอัตตาของเราหรือ