พระสุตตันตปิฎกไทย: 23/324/229 230

สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
เล่ม 23
หน้า 324
สัตว์พวกหนึ่งผู้เข้าถึงชั้นเนวสัญญานาสัญญายตนะ เพราะล่วงอากิญจัญญายตนะโดย ประการทั้งปวง นี้เป็นสัตตาวาสชั้นที่ ๙ ดูกรภิกษุทั้งหลายสัตตาวาส ๙ ชั้นนี้แล ฯ จบสูตรที่ ๔ สิลายูปสูตรที่ ๑
[๒๒๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในกาลใดแล ภิกษุอบรมจิตให้ดีด้วยปัญญา ในกาลนั้น ควรเรียกภิกษุนั้นว่า ย่อมรู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุอบรมจิตให้ดีด้วยปัญญาอย่างไร ภิกษุอบรมจิตให้ดีด้วยปัญญา อย่างนี้ว่า จิตของเราปราศจากราคะแล้ว จิตของเราปราศจากโทสะแล้ว จิตของเราปราศจาก โมหะแล้ว จิตของเราไม่มีราคะเป็นธรรมดา จิตของเราไม่มีโทสะเป็นธรรมดา จิตของเราไม่ มีโมหะเป็นธรรมดา จิตของเราไม่เวียนมาเพื่อรูปราคะเป็นธรรมดา จิตของเราไม่เวียนมาเพื่อ อรูปราคะเป็นธรรมดา ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในกาลใดแล ภิกษุอบรมจิตให้ดีด้วยปัญญาแล้ว ใน กาลนั้น ควรเรียกภิกษุนั้นว่า ย่อมรู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้ มิได้มี ฯ จบสูตรที่ ๕ สิลายูปสูตรที่ ๒
[๒๓๐] สมัยหนึ่ง ท่านพระสารีบุตรและท่านพระจันทิกาบุตรอยู่ ณ พระวิหารเวฬุวัน กลันทกนิวาปสถาน ใกล้พระนครราชคฤห์ ณ ที่นั้นแล ท่านพระจันทิกาบุตรกล่าวกะภิกษุ ทั้งหลายว่า ดูกรอาวุโสทั้งหลาย พระเทวทัตย่อมแสดงธรรมแก่ภิกษุทั้งหลายอย่างนี้ว่า ดูกร อาวุโสทั้งหลาย ในกาลใดแล ภิกษุอบรมจิตให้ดีด้วยจิต ในกาลนั้น ควรพยากรณ์ภิกษุนั้นว่า ย่อมรู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความ เป็นอย่างนี้มิได้มี ฯ