พระสุตตันตปิฎกไทย: 25/323/366 367

สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
เล่ม 25
หน้า 323
ให้สมควรแก่ธรรม ดูกรสภิยะท่านปรารถนาปัญหาข้อใดข้อหนึ่งในใจ ก็เชิญถามเราเถิดเราจะกระทำที่สุดเฉพาะปัญหานั้นๆ แก่ท่าน ฯ
[๓๖๖] ลำดับนั้น สภิยปริพาชกดำริว่า น่าอัศจรรย์จริงหนอ ไม่เคยมีมาเลยหนอ เราไม่ได้แม้เพียงให้โอกาสในสมณพราหมณ์เหล่าอื่นเลย พระสมณโคดมได้ทรงให้โอกาสนี้แก่เรา แล้ว สภิยปริพาชกมีใจชื่นชม เบิกบาน เฟื่องฟูเกิดปีติโสมนัส ได้กราบทูลถามปัญหากะ พระผู้มีพระภาคว่า บัณฑิตกล่าวบุคคลผู้บรรลุอะไรว่าเป็นภิกษุ กล่าวบุคคลว่าผู้สงบเสงี่ยม ด้วยอาการอย่างไร กล่าวบุคคลว่าผู้ฝึกตนแล้วอย่างไรและอย่างไรบัณฑิต จึงกล่าวบุคคลว่า ผู้รู้ ข้าแต่พระผู้มีพระภาค พระองค์อันข้าพระองค์ ทูลถามแล้ว ขอจงตรัสพยากรณ์แก่ข้าพระองค์เถิด ฯ พระผู้มีพระภาคตรัสพยากรณ์ว่า ดูกรสภิยะ ผู้ใดถึงความดับกิเลสด้วยมรรคที่ตนอบรมแล้ว ข้ามความสงสัยเสียได้ ละความไม่เป็นและความเป็นได้เด็ดขาด อยู่จบพรหมจรรย์ มีภพใหม่ สิ้นแล้ว ผู้นั้นบัณฑิตกล่าวว่าเป็นภิกษุผู้ใดวางเฉยในอารมณ์มีรูป เป็นต้นทั้งหมด มีสติ ไม่เบียดเบียนสัตว์ในโลกทั้งปวง ข้ามโอฆะ ได้แล้ว เป็นผู้สงบ ไม่ขุ่นมัว ไม่มีกิเลสเครื่องฟูขึ้น ผู้นั้นบัณฑิต กล่าวว่าผู้สงบเสงี่ยม ผู้ใดอบรมอินทรีย์แล้ว แทงตลอดโลกนี้และ โลกอื่น ทั้งภายในทั้งภายนอกในโลกทั้งปวง รอเวลาสิ้นชีวิตอยู่ อบรมตนแล้ว ผู้นั้นบัณฑิตกล่าวว่าผู้ฝึกตนแล้ว ผู้พิจารณาสงสาร ทั้งสองอย่าง คือ จุติและอุปบัติ ตลอดกัปทั้งสิ้นแล้ว ปราศจากธุลี ไม่มีกิเลสเครื่องยียวน ผู้หมดจด ถึงความสิ้นไปแห่งชาติ ผู้นั้นบัณฑิต กล่าวว่าผู้รู้ ฯ
[๓๖๗] ลำดับนั้น สภิยปริพาชก ชื่นชมอนุโมทนาภาษิตของพระผู้มีพระภาคแล้ว มีใจ ชื่นชม เบิกบาน เฟื่องฟู เกิดปีติโสมนัส ได้ทูลถามปัญหาข้อต่อไปกะพระผู้มีพระภาคว่า บัณฑิตกล่าวบุคคลผู้บรรลุอะไรว่าเป็นพราหมณ์ กล่าวบุคคลว่าเป็นสมณะ ด้วยอาการอย่างไร กล่าวบุคคลผู้ล้างบาปอย่างไรและอย่างไรบัณฑิต