พระสุตตันตปิฎกไทย: 23/322/227

สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
เล่ม 23
หน้า 322
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุรุษอาชาไนยผู้เจริญที่สมบูรณ์ด้วยเชาวน์ แต่ไม่สมบูรณ์ด้วย คุณสมบัติ และใช้ไม่ได้ อย่างไร ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุรุษอาชาไนยผู้เจริญในโลกนี้ กระทำให้ แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญา อันยิ่งเอง ในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ ข้อนี้เรากล่าวว่าเป็นเชาวน์ของเธอ เธอถูกถามปัญหาในอภิธรรม ในอภิวินัย ก็แก้ได้แต่ไม่ยังประโยชน์ให้สำเร็จ ข้อนี้เรากล่าวว่าไม่เป็นคุณสมบัติของเธอ และ เธอไม่ได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร ข้อนี้เรากล่าวว่าเป็นการ ใช้ไม่ได้ของเธอ ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุรุษอาชาไนยผู้เจริญ สมบูรณ์ด้วยเชาวน์ แต่ไม่สมบูรณ์ ด้วยคุณสมบัติ และใช้ไม่ได้ อย่างนี้แล ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุรุษอาชาไนยผู้เจริญ สมบูรณ์ด้วยเชาวน์ และสมบูรณ์ด้วยคุณสมบัติ แต่ใช้ไม่ได้อย่างไร ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุรุษอาชาไนยผู้เจริญในโลกนี้ ... ข้อนี้เรากล่าวว่า เป็น คุณสมบัติของเธอ แต่เธอไม่ได้จีวร ...ข้อนี้เรากล่าวว่า เป็นการใช้ไม่ได้ของเธอ ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย บุรุษอาชาไนยสมบูรณ์ด้วยเชาวน์และสมบูรณ์ด้วยคุณสมบัติ แต่ใช้ไม่ได้ อย่างนี้แล ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บุรุษอาชาไนยผู้เจริญในโลกนี้ สมบูรณ์ด้วยเชาวน์ สมบูรณ์ด้วย คุณสมบัติ และใช้ได้อย่างไร ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุรุษอาชาไนยผู้เจริญในโลกนี้ กระทำให้ แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญา อันยิ่งเอง ในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ ข้อนี้เรากล่าวว่าเป็นเชาวน์ของเธอ เธอเมื่อถูกถามปัญหาใน อภิธรรม ในอภิวินัย ก็แก้ได้ ยังประโยชน์ให้สำเร็จได้ ข้อนี้เรากล่าวว่าเป็นคุณสมบัติของเธอ และเธอได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร ข้อนี้เรากล่าวว่า เป็นการ ใช้ได้ของเธอ ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุรุษอาชาไนยผู้เจริญ สมบูรณ์ด้วยเชาวน์ สมบูรณ์ด้วย คุณสมบัติ และใช้ได้อย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุรุษอาชาไนยผู้เจริญ ๓ ประเภทนี้แล ฯ จบสูตรที่ ๒ ตัณหาสูตร
[๒๒๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงธรรมอันมีตัณหาเป็นมูล ๙ ประการ เธอทั้งหลาย จงฟัง ฯลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมอันมีตัณหาเป็นมูล ๙ประการเป็นไฉน การแสวงหา เพราะอาศัยตัณหา ๑ การได้เพราะอาศัยการแสวงหา ๑ การวินิจฉัยเพราะอาศัยการได้ ๑