พระสุตตันตปิฎกไทย: 25/304/333

สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
เล่ม 25
หน้า 304
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิก เศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล ธรรมิกอุบาสกพร้อมด้วยอุบาสก ๕๐๐ เข้าไปเฝ้า พระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้ว นั่งณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถาม พระผู้มีพระภาคด้วยคาถาว่า
[๓๓๓] ข้าแต่พระโคดมผู้มีพระปัญญาเสมอด้วยแผ่นดิน ข้าพระองค์ขอ ทูลถาม พระองค์ อุบาสกผู้ออกบวชเป็นบรรพชิตก็ดี อุบาสกผู้ยังอยู่ครองเรือน อีกก็ดี บรรดาสาวกทั้งสองพวกนี้สาวกกระทำอย่างไรจึงจะเป็นผู้ยัง ประโยชน์ให้สำเร็จ พระองค์เท่านั้นแล ทรงทราบชัดซึ่งคติและความ สำเร็จของโลกพร้อมทั้งเทวโลก บุคคลผู้เห็นประโยชน์อันละเอียดเช่น กับพระองค์ย่อมไม่มี บัณฑิตทั้งหลายย่อมกล่าวพระองค์แล ว่าเป็น พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐ พระองค์ทรงแทงตลอดไญยธรรมทรงอนุเคราะห์ เหล่าสัตว์ ได้ทรงประกาศพระญาณและธรรมทั้งปวง ข้าแต่พระโคดมผู้ มีพระจักษุรอบคอบ พระองค์ผู้มีกิเลสดุจหลังคาที่เปิดแล้ว เป็นผู้ปราศจาก มลทิน ไพโรจน์อยู่ในโลกทั้งปวง พญาช้าง (เทพบุตร) ชื่อเอราวัณ ทราบว่า พระผู้มีพระภาคนี้ทรงชนะบาปธรรม ดังนี้แล้วได้ไปในสำนัก ของพระองค์ พญาช้างเอราวัณแม้นั้นทูลถามปัญหากะพระองค์ ได้สดับ ปัญหาแล้วซ้องสาธุการชื่นชมยินดี ได้บรรลุธรรมไปแล้ว แม้พระราชา พระนามว่าเวสสวัณกุเวรก็เข้าเฝ้าพระองค์ทูลไต่ถามธรรมอยู่ พระองค์ อันพระราชาพระนามว่าเวสสวัณกุเวรแม้นั้นแล ทูลถามแล้วย่อมตรัส บอก ท้าวเวสสวัณกุเวรแม้นั้นแล ได้สดับปัญหาแล้วทรงชื่นชมยินดี ได้ เสด็จไปแล้ว พวกเดียรถีย์ก็ดี อาชีวกก็ดีนิครนถ์ก็ดี ผู้มีปรกติกระทำ วาทะทั้งหมดนี้ย่อมไม่เกินพระองค์ด้วยปัญญา เหมือนบุคคลผู้หยุดอยู่ ไม่ พึงเกินคนเดินเร็วซึ่งเดินอยู่ ฉะนั้น พวกพราหมณ์ก็ดี แม้พวกพราหมณ์ ผู้เฒ่าก็ดีผู้มีปรกติกระทำวาทะเหล่าใดเหล่าหนึ่งมีอยู่ และแม้ชนเหล่า อื่นสำคัญอยู่ว่า เราทั้งหลายผู้มีปรกติกระทำวาทะ ชนเหล่านั้นทั้งหมด เป็นผู้เนื่องด้วยประโยชน์ในพระองค์ ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ข้าพระองค์ ทั้งหมดกำลังคอยฟังด้วยดี ซึ่งธรรมที่ละเอียดและนำความสุขมาให้ อัน