พระสุตตันตปิฎกไทย: 13/304/437 438

สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์
เล่ม 13
หน้า 304
จงใส่ในบาตรของฉันนี้เถิด. ทาสีของญาติเมื่อเทขนมกุมมาสที่บูดนั้นลงในบาตรของท่านพระ รัฐปาละ จำนิมิตแห่งมือเท้าและเสียงได้. แล้วได้เข้าไปหามารดาของท่านรัฐปาละ แล้วได้กล่าวว่า เดชะบุญแม่เจ้า แม่เจ้าพึงทราบว่า รัฐปาละลูกแม่เจ้ามาแล้ว. มารดาท่านพระรัฐปาละกล่าวว่า แม่คนใช้ ถ้าเจ้ากล่าวจริง ฉันจะทำเจ้าไม่ให้เป็นทาสี. ลำดับนั้น มารดาของท่านพระรัฐปาละเข้าไปหาบิดาถึงที่อยู่แล้วได้กล่าวว่า เดชะบุญ ท่านคฤหบดี ท่านพึงทราบว่า ได้ยินว่ารัฐปาลกุลบุตรมาถึงแล้ว. พระรัฐปาลฉันขนมบูด
[๔๓๗] ขณะนั้น ท่านพระรัฐปาละอาศัยฝาเรือนแห่งหนึ่งฉันขนมกุมมาสบูดนั้นอยู่. บิดาเข้าไปหาท่านพระรัฐปาละถึงที่ใกล้ แล้วได้ถามว่า มีอยู่หรือพ่อรัฐปาละ ที่พ่อจักกินขนม กุมมาสบูด พ่อควรไปเรือนของตัวมิใช่หรือ? ท่านพระรัฐปาละตอบว่า ดูกรคฤหบดี เรือนของอาตมภาพผู้ออกจากเรือนบวชเป็น บรรพชิตจะมีที่ไหน อาตมภาพไม่มีเรือน อาตมภาพได้ไปถึงเรือนของท่านแล้ว แต่ที่เรือนของ ท่านนั้น อาตมภาพไม่ได้การให้ ไม่ได้คำตอบเลย ได้เพียงคำด่าอย่างเดียวเท่านั้น. มาไปเรือน มาเถิด พ่อรัฐปาละ. อย่าเลยคฤหบดี วันนี้อาตมภาพทำภัตตกิจเสร็จแล้ว. พ่อรัฐปาละ ถ้าอย่างนั้น ขอท่านจงรับภัตตาหารเพื่อฉันในวันพรุ่งนี้ ท่านพระรัฐปาละรับ นิมนต์ด้วยดุษณีภาพแล้ว. พระรัฐปาลเข้าไปบ้านโยมบิดา
[๔๓๘] ลำดับนั้น บิดาของท่านพระรัฐปาละทราบว่า ท่านรัฐปาละรับนิมนต์แล้วเข้าไป ยังนิเวศน์ของตน แล้วสั่งให้ฉาบไล้ที่แผ่นดินด้วยโคมัยสด แล้วให้ขนเงินและทองมากองเป็น กองใหญ่ แบ่งเป็นสองกอง คือ เงินกองหนึ่ง ทองกองหนึ่ง เป็นกองใหญ่อย่างที่บุรุษที่ยืนอยู่ข้างนี้ ไม่เห็นบุรุษที่ผู้ยืนข้างโน้น บุรุษที่ยืนข้างโน้นไม่เห็นบุรุษผู้ยืนข้างนี้ ฉะนั้น ให้ปิดกองเงินกองทอง นั้นด้วยเสื่อลำแพน ให้ปูลาดอาสนะไว้ท่ามกลาง แล้วแวดวงด้วยม่าน แล้วเรียกหญิงทั้งหลายที่เป็น ภรรยาเก่าของท่านพระรัฐปาละมาว่า ดูกรแม่สาวๆ ทั้งหลาย เจ้าทั้งหลายประดับด้วยเครื่องประดับ