พระสุตตันตปิฎกไทย: 25/301/330
สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
การกระทำความพิจารณาย่อมมีแก่พระตถาคตทั้งหลายไวยากรณ์อัน
สมบูรณ์นี้ เป็นของพระองค์ผู้มีพระปัญญาผุดขึ้นดี ทรงเรียนดีแล้ว
ข้าแต่พระผู้มีพระภาคผู้มีพระปัญญาไม่ทราม อัญชลีมีในภายหลังนี้ ข้า
พระองค์ประฌมดีแล้วพระองค์ทรงทราบอยู่ซึ่งคติของภิกษุชื่อนิโครธ
กัปปะ อย่าได้ทรงทำข้าพระองค์ให้หลงเลย ข้าแต่พระผู้มีพระภาค
ผู้มีความเพียรไม่ทราม พระองค์ทรงรู้แจ้งอริยธรรมอันประเสริฐยิ่ง
ทรงทราบอยู่ซึ่งไญยธรรมทั้งปวง อย่าได้ทรงทำข้าพระองค์ให้หลงเลย
ข้าพระองค์หวังจะได้สดับพระดำรัสของพระองค์อยู่ เหมือนบุรุษผู้ร้อน
แล้วเพราะความร้อนในฤดูร้อน หวังจะได้น้ำ ฉะนั้น ขอพระองค์
จงยังสัททายตนะ คือ สุตะให้ตกเถิด ภิกษุชื่อนิโครธกัปปะได้ประพฤติ
พรหมจรรย์ ตามความปรารถนา พรหมจรรย์อะไรๆ ของท่านไม่เปล่า
นิพพานแล้ว ด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุหรือ หรือว่าเป็นผู้พ้นวิเศษแล้ว
ยังมีอุปาทานเหลืออยู่ ข้าพระองค์ทั้งหลายจะขอฟังความข้อนั้น ฯ
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบด้วยพระคาถาว่า
ภิกษุชื่อนิโครธกัปปะ ได้ตัดตัณหาในนามรูปนี้ ที่เป็นกระแสแห่งกัณหมาร
อันนอนเนื่องแล้วสิ้นกาลนาน เธอได้ข้ามพ้นชาติและมรณะไม่มีส่วน
เหลือ ปรินิพพานแล้วด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ พระผู้มีพระภาค
ผู้ประเสริฐสุดด้วยอินทรีย์ ๕ เป็นต้น ได้ตรัสอย่างนี้ ฯ
ท่านพระวังคีสะกราบทูลว่า
ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ข้าพระองค์นี้ได้ฟังแล้ว ย่อมเลื่อมใสพระดำรัส
ของพระองค์ ได้ยินว่า ข้าพระองค์ได้ทูลถามถึงพรหมจรรย์อันไม่เปล่า
พระองค์ผู้เป็นพราหมณ์ไม่ลวงข้าพระองค์ พระสาวกของพระพุทธเจ้า
เป็นผู้มีปรกติกล่าวอย่างใด กระทำอย่างนั้น ได้ตัดข่ายอันมั่นคงนั้นๆ
ของมัจจุราชผู้มีมายาขาดแล้ว ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ภิกษุชื่อนิโครธกัปปะ
ผู้สมควร ได้เห็นเบื้องต้นแห่งอุปาทานได้ล่วงบ่วงมารที่ข้ามได้แสนยาก
แล้วหนอ ฯ
จบวังคีสสูตรที่ ๑๒