พระสุตตันตปิฎกไทย: 23/298/213 214
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า จริงละ คำนี้ท่านฟังมาดีแล้ว รับมาดีแล้ว ใส่ใจไว้ดีแล้ว
ทรงจำไว้ดีแล้ว ครั้งก่อนและบัดนี้ เราก็กล่าวอย่างนี้ว่า ภิกษุใดเป็นพระอรหันตขีณาสพ
อยู่พรหมจรรย์ ... หลุดพ้นแล้วเพราะรู้โดยชอบ ภิกษุนั้นเป็นผู้ที่ไม่ควรเพื่อประพฤติล่วงฐานะ
๙ ประการ คือ ภิกษุผู้ขีณาสพไม่ควรแกล้งฆ่าสัตว์ ฯลฯ ไม่ควรกล่าวคืนพระพุทธเจ้า ไม่ควร
กล่าวคืนพระธรรม ไม่ควรกล่าวคืนพระสงฆ์ ไม่ควรกล่าวคืนสิกขา ดูกรสัชฌะ ครั้งก่อนและ
บัดนี้เราก็กล่าวอย่างนี้ว่า ภิกษุใดเป็นพระอรหันตขีณาสพ อยู่จบพรหมจรรย์ ทำกิจที่ควรทำ
เสร็จแล้ว ปลงภาระแล้วมีประโยชน์แห่งตนอันบรรลุแล้วโดยลำดับ มีกิเลสเครื่องประกอบสัตว์
ไว้ในภพสิ้นรอบแล้ว หลุดพ้นแล้วเพราะรู้โดยชอบภิกษุนั้นเป็นผู้ไม่ควรเพื่อประพฤติล่วงฐานะ
๙ ประการนี้ ฯ
จบสูตรที่ ๘
ปุคคลสูตร
[๒๑๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๙ จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก๙ จำพวกเป็นไฉน
คือ พระอรหันต์ ๑ ท่านผู้ปฏิบัติเพื่อความเป็นพระอรหันต์ ๑พระอนาคามี ๑ ท่านผู้ปฏิบัติ
เพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งอนาคามิผล ๑ พระสกทาคามี ๑ท่านผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งสกทา
คามิผล ๑ พระโสดาบัน ๑ ท่านผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล ๑ ปุถุชน ๑ ดูกร
ภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๙จำพวกเหล่านี้แล มีปรากฏอยู่ในโลก ฯ
จบสูตรที่ ๙
อาหุเนยยสูตร
[๒๑๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๙ จำพวกนี้ เป็นผู้ควรของคำนับ เป็นผู้ควรของ
ต้อนรับ เป็นผู้ควรของทำบุญ เป็นผู้ควรกระทำอัญชลี เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า