พระสุตตันตปิฎกไทย: 15/285/943 944 945 946
สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
สักกปัญจกะที่ ๓
ฆัตวาสูตรที่ ๑
[๙๔๓] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของอนาถ
บิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ฯ
ครั้งนั้นแล ท้าวสักกะจอมเทพเสด็จเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นแล้ว
ทรงถวายบังคม แล้วประทับอยู่ ณ ที่สมควรส่วนหนึ่ง ฯ
[๙๔๔] ท้าวสักกะจอมเทพประทับอยู่ ณ ที่สมควรส่วนหนึ่ง เรียบร้อยแล้ว ได้ทูล
ถามพระผู้มีพระภาคด้วยคาถาว่า
บุคคลฆ่าอะไรแล้วสิจึงจะอยู่เป็นสุข ฆ่าอะไรแล้วสิจึงจะไม่เศร้าโศก
ข้าแต่พระโคดม พระองค์ทรงชอบการฆ่าอะไรอันเป็นธรรมอย่างเอก ฯ
[๙๔๕] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า
บุคคลฆ่าความโกรธเสียแล้ว ย่อมอยู่เป็นสุข ฆ่าความโกรธเสียแล้ว
ย่อมไม่เศร้าโศก ดูกรท้าววาสวะ พระอริยะเจ้าทั้งหลายย่อมสรรเสริญ
การฆ่าความโกรธอันมีรากเป็นพิษมียอดหวาน เพราะว่าบุคคลฆ่าความ
โกรธนั้นเสียแล้ว ย่อมไม่เศร้าโศก ฯ
ทุพรรณิยสูตรที่ ๒
[๙๔๖] สาวัตถีนิทาน ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว ยักษ์ตนหนึ่งมีผิวพรรณทราม ต่ำเตี้ย พุงพลุ้ย
นั่งอยู่บนอาสนะแห่งท้าวสักกะจอมเทพ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ได้ยินว่าในที่นั้น พวกเทวดา
ชั้นดาวดึงส์พากันยกโทษตำหนิติเตียนว่า ดูกรท่านผู้เจริญทั้งหลาย น่าอัศจรรย์หนอ ดูกรท่าน
ผู้เจริญทั้งหลาย ไม่เคยมีมาแล้วหนอ ยักษ์นี้มีผิวพรรณทราม ต่ำเตี้ย พุงพลุ้ย นั่งอยู่บน