พระสุตตันตปิฎกไทย: 15/282/932 933 934 935

สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
เล่ม 15
หน้า 282
ข้าแต่ท้าววาสวะ พระองค์ทรงนอบน้อมบุคคลเหล่าใด ถึง ข้าพระองค์ก็ขอ นอบน้อมบุคคลเหล่านั้น ฯ
[๙๓๒] ท้าวมฆวาสุชัมบดีเทวราชผู้เป็นประมุขของเทวดาทั้งหลาย ครั้นตรัส ดังนี้แล้ว ทรงน้อมนมัสการทิศเป็นอันมาก แล้วเสด็จขึ้นรถ ฯ ทุติยสักกนมัสนสูตรที่ ๙
[๙๓๓] สาวัตถีนิทาน ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว ท้าวสักกะจอมเทพได้ตรัสกะมาตลีสังคาหกเทพ บุตรว่า ดูกรสหายมาตลี ท่านจงเตรียมจัดรถม้าอาชาไนยซึ่งเทียมด้วยม้าพันตัว เราจะไปยังพื้น ที่อุทยานเพื่อชมภูมิภาคอันงดงาม ดูกรภิกษุทั้งหลายมาตลีสังคาหกเทพบุตรทูลรับพระดำรัสท้าว สักกะจอมเทพว่า ขอเดชะ ขอความเจริญจงมีแด่พระองค์ ดังนี้แล้ว จัดเตรียมรถม้าอาชาไนย ซึ่งเทียมด้วยม้าพันตัวเสร็จแล้ว กราบทูลแก่ท้าวสักกะจอมเทพว่า ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ รถม้าอาชาไนยซึ่งเทียมด้วยม้าพันตัวสำหรับพระองค์ จัดเตรียมไว้เสร็จแล้ว ขอพระองค์ ทรงทราบกาลอันควรในบัดนี้เถิด ดูกรภิกษุทั้งหลาย ได้ทราบว่า ครั้งนั้นแลท้าวสักกะจอม เทพขณะเสด็จลงจากเวชยันตปราสาท ทรงประนมอัญชลีนมัสการพระผู้มีพระภาคอยู่ ฯ
[๙๓๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล มาตลีสังคาหกเทพบุตรได้ทูลถามท้าวสักกะ จอมเทพด้วยคาถาว่า ข้าแต่ท้าววาสวะ เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายย่อมนอบน้อมพระองค์นั่น เทียว ข้าแต่ท้าวสักกะ เมื่อเช่นนั้น พระองค์ทรงนอบน้อมท่านผู้ควร บูชาคนใด ท่านผู้ควรบูชาคนนั้น คือใครเล่า ฯ
[๙๓๕] ท้าวสักกะตรัสตอบว่า ดูกรมาตลี พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใดในโลกพร้อมทั้งเทวโลก เรานอบน้อมพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้เป็นศาสดามีพระนาม ไม่ทราม ดูกรมาตลี ท่านเหล่าใดสำรอกราคะ โทสะและอวิชชาแล้ว เป็นพระอรหันตขีณาสพ เรานอบน้อมท่านเหล่านั้น ดูกรมาตลี ท่าน