พระสุตตันตปิฎกไทย: 23/277/194      
      สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
      
     
 
    
        
          
            เพราะท่านเหล่านี้ฉันอาหารเต็มท้องพอความต้องการแล้ว มัวประกอบความสุขในการนอน สุขใน
การเอน สุขในการหลับอยู่ ฯ
     ดูกรนาคิตะ เราเห็นภิกษุในธรรมวินัยนี้ นั่งสมาธิอยู่ที่วิหารใกล้บ้าน  เรานั้นมีความคิด
อย่างนี้ว่า บัดนี้ คนวัดหรือสมณุทเทสจักบำรุงท่านผู้นี้ ทำให้เธอไปจากสมาธินั้นเสีย เพราะ
เหตุนั้น เราจึงไม่พอใจด้วยการอยู่ใกล้บ้านของภิกษุนั้น ฯ
     ดูกรนาคิตะ ก็เราเห็นภิกษุในธรรมวินัยนี้ นั่งโงกง่วงอยู่ในป่า เรานั้นมีความคิดอย่างนี้ว่า
 บัดนี้ ท่านผู้นี้พอบรรเทาความลำบากในการนอนหลับนี้ได้แล้วจักกระทำความสำคัญว่าอยู่ในป่า
ไว้ในใจได้ประมาณเท่านี้ เพราะเหตุนั้น เราจึงพอใจด้วยการอยู่ในป่าของภิกษุนั้น ฯ
     ดูกรนาคิตะ ก็เราเห็นภิกษุในธรรมวินัยนี้ นั่งไม่เป็นสมาธิอยู่ในป่า เรานั้นมีความคิด
อย่างนี้ว่า บัดนี้ ท่านผู้นี้จักตั้งมั่นจิตที่ยังไม่ตั้งมั่น หรือจักตามรักษาจิตที่ตั้งมั่นแล้ว เพราะ
เหตุนั้น เราจึงพอใจด้วยการอยู่ในป่าของภิกษุนั้น ฯ
     ดูกรนาคิตะ ก็เราเห็นภิกษุในธรรมวินัยนี้ ถือการอยู่ป่านั่งสมาธิอยู่ เรานั้นมีความคิด
อย่างนี้ว่า บัดนี้ ท่านผู้นี้จักเปลื้องจิตที่ยังไม่หลุดพ้น หรือจักตามรักษาจิตที่หลุดพ้นแล้ว เพราะ
เหตุนั้น เราจึงพอใจด้วยการอยู่ในป่าของภิกษุนั้น ฯ
     ดูกรนาคิตะ สมัยใด เราเดินทางไกลไม่เห็นอะไรๆ ข้างหน้าหรือข้างหลัง  สมัยนั้น
เรามีความผาสุก โดยที่สุดการถ่ายอุจจาระปัสสาวะ ฯ
                          จบสูตรที่ ๖
                         ปัตตสูตรที่ ๑
 [๑๙๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สงฆ์หวังอยู่ พึงคว่ำบาตรแก่อุบาสกผู้ประกอบด้วยองค์ ๘
ประการ องค์ ๘ ประการเป็นไฉน คือ อุบาสกพยายามเพื่อความเสื่อมลาภแก่ภิกษุทั้งหลาย ๑
พยายามเพื่อความฉิบหายแก่ภิกษุทั้งหลาย ๑ พยายามเพื่อความอยู่ไม่ได้แก่ภิกษุทั้งหลาย ๑ ย่อม
ด่าย่อมบริภาษภิกษุทั้งหลาย ๑ ยุยงภิกษุทั้งหลายให้แตกจากภิกษุทั้งหลาย ๑ ติเตียนพระพุทธเจ้า ๑
ติเตียนพระธรรม ๑   ติเตียนพระสงฆ์ ๑   ดูกรภิกษุทั้งหลาย   สงฆ์หวังอยู่   พึงคว่ำบาตรแก่
อุบาสกผู้ประกอบด้วยองค์ ๘ ประการนี้แล ฯ
                          จบสูตรที่ ๗