พระสุตตันตปิฎกไทย: 30/275/693 694

สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส
เล่ม 30
หน้า 275
โลภะ โทสะ โมหะ เกิดขึ้นในตน ย่อมเบียดเบียนบุรุษ ผู้มีจิตลามก เหมือนขุยของตนเบียดเบียนไม้ไผ่ ฉะนั้น. ชื่อว่าอันตราย เพราะอรรถว่าอกุศลธรรมทั้งหลายอยู่อาศัยในอัตภาพนั้น แม้อย่างนี้. และสมจริงตามพระพุทธพจน์ที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ว่า ราคะ โทสะ โมหะ ความไม่ยินดี ความยินดี ความเป็นผู้ ขนลุกขนพอง มีอัตภาพนี้เป็นเหตุ เกิดแต่อัตภาพนี้ ความตรึก ในใจตั้งขึ้นแต่อัตภาพนี้ ย่อมผูกสัตว์ไว้ เหมือนพวกเด็กๆ ผูก กาไว้ ฉะนั้น. ชื่อว่าอันตราย เพราะอรรถว่าอกุศลธรรมทั้งหลายอาศัยอยู่ในอัตภาพนั้น แม้อย่างนี้. คำว่า ครอบงำอันตรายทั้งหลาย ความว่า ครอบงำ คือ ไม่ยินดี ท่วมทับ บีบคั้น กำจัด ซึ่งอันตรายทั้งหลาย เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า ครอบงำอันตรายทั้งหลาย. คำว่า ผู้ไม่มีความหวาดเสียว ความว่า พระปัจเจกสัมพุทธเจ้านั้น ไม่ขลาด ไม่มีความ หวาดเสียว ไม่สะดุ้ง ไม่หนี เป็นผู้ละความกลัวความขลาดแล้ว ปราศจากความเป็นผู้ขนลุก ขนพองอยู่ เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า ผู้ครอบงำอันตรายทั้งหลาย ไม่มีความหวาดเสียว พึงเที่ยว ไปผู้เดียวเหมือนนอแรด ฉะนั้น. เพราะเหตุนั้น พระปัจเจกสัมพุทธเจ้านั้น จึงกล่าวว่า พระปัจเจกสัมพุทธเจ้านั้น มีปกติอยู่ตามสบายในทิศ ๔ ไม่มี ความขัดเคือง ยินดีด้วยปัจจัยตามมีตามได้ ครอบงำอันตราย ทั้งหลาย ไม่มีความหวาดเสียว พึงเที่ยวไปผู้เดียว เหมือน นอแรด ฉะนั้น.
[๖๙๓] แม้บรรพชิตพวกหนึ่ง และพวกคฤหัสถ์ผู้ครองเรือน เป็นผู้อัน คนอื่นสงเคราะห์ยาก. บุคคลพึงเป็นผู้มีความขวนขวายน้อยใน ผู้อื่นและบุตรทั้งหลาย พึงเที่ยวไปผู้เดียวเหมือนนอแรด ฉะนั้น.
[๖๙๔] คำว่า แม้บรรพชิตพวกหนึ่ง ... เป็นผู้อันคนอื่นสงเคราะห์ยาก ความว่า แม้ บรรพชิตบางพวกในศาสนานี้ เมื่อคนอื่นให้นิสัยก็ดี ให้อุเทศก็ดี ให้ปริปุจฉาก็ดี ให้จีวรก็ดี ให้บาตรก็ดี ให้ภาชนะที่ทำด้วยโลหะก็ดี ให้ธัมกรกก็ดี ให้ผ้ากรองน้ำก็ดี ให้ลูกดานก็ดี ให้