พระสุตตันตปิฎกไทย: 30/274/692
สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส
ระหว่าง เป็นข้าศึกในระหว่าง. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๓ ประการนี้แล เป็นมลทินในระหว่าง
เป็นไพรีในระหว่าง เป็นศัตรูในระหว่าง เป็นผู้ฆ่าในระหว่าง เป็นข้าศึกในระหว่าง.
โลภะยังโทษอันไม่เป็นประโยชน์ให้เกิด. โลภะยังจิตให้กำเริบ.
ภัยเกิดภายในจิต. คนพาลย่อมไม่รู้สึกถึงภัยนั้น. คนโลภย่อม
ไม่รู้จักอรรถ. คนโลภย่อมไม่เห็นธรรม. โลภะย่อมครอบงำนรชน
ในขณะใด ความมืดตื้อย่อมมีในขณะนั้น. โทสะยังโทษอัน
ไม่เป็นประโยชน์ให้เกิด. โทสะยังจิตให้กำเริบ. ภัยเกิดภายในจิต
คนพาลย่อมไม่รู้สึกถึงภัยนั้น. คนโกรธย่อมไม่รู้จักอรรถ. คน
โกรธย่อมไม่เห็นธรรม. โทสะย่อมครอบงำนรชนในขณะใด
ความมืดตื้อย่อมมีในขณะนั้น. โมหะยังโทษอันไม่เป็นประโยชน์
ให้เกิด. โมหะยังจิตให้กำเริบ. ภัยเกิดภายในจิต. คนพาลย่อม
ไม่รู้สึกถึงภัยนั้น. คนหลงย่อมไม่รู้จักอรรถ. คนหลงย่อมไม่เห็น
ธรรม. โมหะย่อมครอบงำนรชนในขณะใด ความมืดตื้อย่อมมี
ในขณะนั้น.
ชื่อว่าอันตราย เพราะอรรถว่า อกุศลธรรมทั้งหลายอาศัยอยู่ในอัตภาพนั้นแม้อย่างนี้.
และสมจริงตามพระพุทธพจน์ที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ว่า ดูกรมหาบพิตร ธรรมอัน
กระทำอันตราย ๓ ประการแล เมื่อเกิดในภายใน ย่อมเกิดขึ้นเพื่อไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล เพื่อ
ทุกข์ เพื่อความอยู่ไม่ผาสุก. ธรรมอันกระทำอันตราย ๓ ประการเป็นไฉน? ดูกรมหาบพิตร ธรรม
อันกระทำอันตราย คือ โลภะแล เมื่อเกิดขึ้นในภายใน ย่อมเกิดขึ้นเพื่อไม่เป็นประโยชน์
เกื้อกูล เพื่อทุกข์ เพื่อความไม่ผาสุก. ดูกรมหาบพิตร ธรรมอันกระทำอันตราย คือ โทสะแล ฯลฯ.
ดูกรมหาบพิตร ธรรมอันกระทำอันตราย คือ โมหะแล เมื่อเกิดขึ้นในภายใน ย่อมเกิดขึ้นเพื่อ
ไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล เพื่อทุกข์ เพื่อความอยู่ไม่ผาสุก. ดูกรมหาบพิตร ธรรมอันกระทำ
อันตราย ๓ ประการนี้แล เมื่อเกิดขึ้นในภายใน ย่อมเกิดขึ้นเพื่อไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล เพื่อ
ทุกข์ เพื่อความอยู่ไม่ผาสุก.