พระสุตตันตปิฎกไทย: 30/266/680

สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส
เล่ม 30
หน้า 266
สมจริงตามพระพุทธพจน์ที่พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เนื้อที่อาศัยป่า เที่ยวไปในป่าใหญ่ ปราศจากรังเกียจเดินไป ปราศจากรังเกียจยืนอยู่ ปราศจากรังเกียจนอนอยู่. ข้อนั้นเพราะเหตุไร? ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะเนื้อนั้นมิได้ไปในทางของพราน ฉันใด. ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุสงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม บรรลุปฐมฌาน มีวิตกวิจาร มีปีติและ สุขเกิดแต่วิเวกอยู่ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนี้เรากล่าวว่า ได้ทำมารให้เป็นผู้บอด กำจัดมารให้ เป็นผู้ไม่มีทาง ไปแล้วสู่สถานที่ที่มารผู้ลามกมองหาไม่เห็น. อีกประการหนึ่ง ภิกษุบรรลุทุติยฌาน อันมีความผ่องใส แห่งจิตในภายใน เป็นธรรม เอกผุดขึ้น ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร เพราะวิตกวิจารสงบไป มีปีติและสุขเกิดแต่สมาธิอยู่ ... ไปแล้ว สู่สถานที่ที่มารผู้ลามกมองหาไม่เห็น. อีกประการหนึ่ง ภิกษุมีอุเบกขา มีสติสัมปชัญญะ เสวยสุขด้วยนามกายเพราะปีติสิ้นไป บรรลุตติยฌานที่พระอริยะทั้งหลายสรรเสริญว่า ผู้ได้ฌานนี้เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติ อยู่เป็นสุข ... ไปแล้วสู่สถานที่ที่มารมองหาไม่เห็น. อีกประการหนึ่ง ภิกษุบรรลุจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์และ ดับโสมนัสโทมนัสก่อนๆ ได้ มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่ ... ไปแล้วสู่สถานที่ที่มารผู้ลามก มองหาไม่เห็น. อีกประการหนึ่ง ภิกษุ เพราะล่วงรูปสัญญา เพราะดับปฏิฆสัญญา เพราะไม่มนสิการ ถึงนานัตตสัญญา โดยประการทั้งปวง บรรลุอากาสานัญจายตนฌานด้วยมนสิการว่า อากาศหา ที่สุดมิได้ ... ไปแล้วสู่สถานที่ที่มารมองหาไม่เห็น. อีกประการหนึ่ง ภิกษุล่วงอากาสานัญจายตนฌานโดยประการทั้งปวงแล้ว บรรลุวิญญา ณัญจายตนฌานด้วยมนสิการว่า วิญญาณหาที่สุดมิได้ ล่วงวิญญาณัญจายตนฌานโดยประการทั้ง ปวงแล้ว บรรลุอากิญจัญญายตนฌานด้วยมนสิการว่า อะไรๆ น้อยหนึ่งมิได้มี ล่วงอากิญจัญ ญายตนฌานโดยประการทั้งปวงแล้ว บรรลุเนวสัญญานาสัญญายตนฌานด้วยมนสิการว่า นี้สงบ นี้ประณีต ล่วงเนวสัญญานาสัญญายตนฌานโดยประการทั้งปวงแล้ว บรรลุสัญญาเวทยิตนิโรธอยู่. และอาสวะทั้งหลายของเธอสิ้นไปเพราะเห็นด้วยปัญญา. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนี้เรากล่าวว่า ได้ทำมารให้เป็นผู้บอด กำจัดมารให้เป็นผู้ไม่มีทาง ไปแล้วสู่สถานที่ที่มารมองหาไม่เห็น. ภิกษุ นั้นข้ามตัณหาอันเกี่ยวข้องในโลกแล้ว เป็นผู้ปราศจากการระแวงภัยเดินไป. ปราศจากการระแวง