พระสุตตันตปิฎกไทย: 22/262/278 279      
      สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
      
     
 
    
        
          
            รส ๑ อดทนต่อโผฏฐัพพะ ๑ อดทนต่อธรรมารมณ์ ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วย
ธรรม ๖ ประการนี้แล ย่อมเป็นผู้ควรของคำนับ ฯลฯ เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ฯ
		           จบสูตรที่ ๖
		       ๗. อาชานิยสูตรที่ ๓
 [๒๗๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ม้าอาชาไนยตัวเจริญของพระราชา ประกอบด้วยองค์ ๖
ประการ ย่อมควรแก่พระราชา เป็นม้าต้น นับว่าเป็นราชพาหนะองค์ ๖ ประการเป็นไฉน คือ
 ม้าอาชาไนยตัวเจริญของพระราชาในโลกนี้ ย่อมอดทนต่อรูป ๑ อดทนต่อเสียง ๑ อดทนต่อ
กลิ่น ๑ อดทนต่อรส ๑ อดทนต่อโผฏฐัพพะ ๑ ถึงพร้อมด้วยฝีเท้า ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ม้า
อาชาไนยตัวเจริญของพระราชาประกอบด้วยองค์ ๖ ประการนี้แล ย่อมควรแก่พระราชา เป็นม้า
ต้นนับว่าเป็นราชพาหนะ ฯ
     ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการก็ฉันนั้นเหมือนกัน ย่อมเป็นผู้
ควรของคำนับ ฯลฯ เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ธรรม๖ ประการเป็นไฉน คือ
ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมอดทนต่อรูป ๑ อดทนต่อเสียง ๑ อดทนต่อกลิ่น ๑ อดทนต่อรส ๑
อดทนต่อโผฏฐัพพะ ๑ อดทนต่อธรรมารมณ์ ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖
ประการนี้แล ย่อมเป็นผู้ควรของคำนับ ฯลฯ เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ฯ
		           จบสูตรที่ ๗
		         ๘. อนุตตริยสูตร
 [๒๗๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนุตตริยะ ๖ ประการนี้ ๖ ประการเป็นไฉน คือ
ทัสสนานุตตริยะ ๑ สวนานุตตริยะ ๑ ลาภานุตตริยะ ๑ สิกขานุตตริยะ ๑  อนุสสตานุตตริยะ ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลายอนุตตริยะ ๖ ประการนี้แล ฯ
		           จบสูตรที่ ๘