พระสุตตันตปิฎกไทย: 30/261/672 673

สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จูฬนิทเทส
เล่ม 30
หน้า 261
ความรักทั้งหลายย่อมมีแก่บุคคลผู้มีความเกี่ยวข้อง. ทุกข์นี้ เป็นไปตามความรัก ย่อมปรากฏ. บุคคลเมื่อเห็นโทษอันเกิด แต่ความรัก พึงเที่ยวไปผู้เดียวเหมือนนอแรด ฉะนั้น.
[๖๗๒] บุคคลเมื่ออนุเคราะห์พวกมิตรและพวกที่มีใจดี ย่อมให้ ประโยชน์เสื่อมไป. ย่อมเป็นผู้มีจิตผูกพัน. บุคคลเมื่อเห็น ภัยนั้นในความสนิทสนม พึงเที่ยวไปผู้เดียวเหมือนนอแรด ฉะนั้น.
[๖๗๓] ชื่อว่า มิตร ในอุเทศว่า มิตฺเต สหชฺเช อนุกมฺปมาโนหาเปติ อตฺถํ ปฏิพทฺธจิตฺโต ดังนี้ มิตรมี ๒ จำพวก คือ มิตรคฤหัสถ์ ๑ มิตรบรรพชิต ๑. มิตรคฤหัสถ์เป็นไฉน? คฤหัสถ์บางคนในโลกนี้ ย่อมให้ของที่ให้กันยาก ย่อมสละ ของที่สละกันยาก ย่อมทำกิจที่ทำกันยาก ย่อมอดทนอารมณ์ที่อดทนกันยาก ย่อมบอกความลับ แก่มิตร ย่อมปิดบังความลับของมิตร ย่อมไม่ละทิ้งในคราวที่มีอันตราย ถึงชีวิตก็ยอมสละเพื่อ ประโยชน์แก่มิตร เมื่อมิตรหมดสิ้น (ยากจน) ก็ไม่ดูหมิ่น. นี้ชื่อว่ามิตรคฤหัสถ์. มิตรบรรพชิตเป็นไฉน? ภิกษุในศาสนานี้ เป็นที่รัก เป็นที่ชอบใจ เป็นที่เคารพ เป็นผู้ควรแก่ความสรรเสริญ เป็นผู้อดทนถ้อยคำ เป็นผู้ทำถ้อยคำลึก และย่อมไม่ชักชวนใน เหตุอันไม่ควร ย่อมชักชวนในอธิศีล ย่อมชักชวนในการขวนขวาย บำเพ็ญสติปัฏฐาน ๔ สัมมัปปธาน ๔ อิทธิบาท ๔ อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ ย่อมชักชวนในการขวนขวาย บำเพ็ญอริยมรรคมีองค์ ๘. นี้ชื่อว่ามิตรบรรพชิต. การไปสบาย การมาสบาย การไปและการมาสบาย การยืนสบาย การนั่งสบาย การนอนสบาย การพูดสบาย การเจรจาสบาย การสนทนาสบาย การปราศรัยสบายกับบุคคล เหล่าใด บุคคลเหล่านั้นท่านกล่าวว่า คนที่มีใจดี. คำว่า บุคคลเมื่ออนุเคราะห์พวกมิตรและพวกคนที่มีใจดี ย่อมให้ประโยชน์เสื่อมไป ความว่า บุคคลเมื่ออนุเคราะห์ อุดหนุนเกื้อกูลพวกมิตรและพวกคนที่มีใจดี คือ พวกมิตรที่ เห็นกันมา พวกมิตรที่คบกันมาและพวกสหาย ย่อมทำให้ประโยชน์ตนบ้าง ประโยชน์ผู้อื่นบ้าง