พระสุตตันตปิฎกไทย: 17/261/506 507 508      
      สุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค
      
     
 
    
        
          
            		            ๘. ตัณหาสูตร
		         ว่าด้วยอุปกิเลสแห่งจิต
 [๕๐๖] พระนครสาวัตถี.   ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความกำหนัดด้วยอำนาจความพอใจใน
รูปตัณหา นี้เป็นอุปกิเลสแห่งจิต ความกำหนัดด้วยอำนาจความพอใจในสัททตัณหา ฯลฯ ใน
คันธตัณหา ฯลฯ ในรสตัณหา ฯลฯ ในโผฏฐัพพตัณหา ฯลฯ ในธรรมตัณหา ฯลฯ นี้เป็นอุปกิเลส
แห่งจิต. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อใดแล ภิกษุละอุปกิเลสแห่งจิตในฐานะ ๖ นี้ได้ เมื่อนั้น จิต
ของเธอย่อมเป็นจิตน้อมไปในเนกขัมมะ อันเนกขัมมะอบรมแล้ว ควรแก่การงาน ปรากฏใน
ธรรมที่พึงทำให้แจ้งด้วยอภิญญา.
		            จบ สูตรที่ ๘.
		            ๙. ธาตุสูตร
		         ว่าด้วยอุปกิเลสแห่งจิต
 [๕๐๗] พระนครสาวัตถี.   ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความกำหนัดด้วยอำนาจความพอใจใน
ปฐวีธาตุ นี้เป็นอุปกิเลสแห่งจิต ความกำหนัดด้วยอำนาจความพอใจในอาโปธาตุ ฯลฯ ใน
เตโชธาตุ ฯลฯ ในวาโยธาตุ ฯลฯ ในอากาสธาตุ ในวิญญาณธาตุ นี้เป็นอุปกิเลสแห่งจิต. ดูกร
ภิกษุทั้งหลาย เมื่อใดแล ภิกษุละอุปกิเลสในฐานะ ๖ นี้ได้ เมื่อนั้น จิตของเธอย่อมเป็นจิตน้อม
ไปในเนกขัมมะ อันเนกขัมมะอบรมแล้ว ควรแก่การงาน ปรากฏในธรรมที่พึงทำให้แจ้งด้วย
อภิญญา.
		            จบ สูตรที่ ๙.
		            ๑๐. ขันธสูตร
		         ว่าด้วยอุปกิเลสแห่งจิต
 [๕๐๘] พระนครสาวัตถี.   ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความกำหนัดด้วยอำนาจความพอใจในรูป
นี้เป็นอุปกิเลสแห่งจิต ความกำหนัดด้วยอำนาจความพอใจในเวทนา นี้เป็นอุปกิเลสแห่งจิต