พระสุตตันตปิฎกไทย: 10/260/330

สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค
เล่ม 10
หน้า 260
เป็นความจริง ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าเป็นผู้มีความเห็นอย่างนี้ว่า แม้เพราะ เหตุนี้ โลก หน้าไม่มี เหล่าสัตว์ผู้ผุดเกิดขึ้นไม่มี ผลวิบากของกรรมที่สัตว์ทำดี ทำชั่วไม่มี แต่ว่า พระผู้เป็น เจ้ากุมารกัสสปได้ไถ่ถอนข้าพเจ้าออกจากทิฐิอันลามก นั้นแล้ว ฯ ดูกรท่านผู้มีอายุ ก็อุตตรมาณพซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในทานของท่าน ไปเกิด ที่ไหน ฯ ข้าแต่ท่านผู้เจริญ อุตตรมาณพซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในทานของข้าพเจ้านั้น ให้ ทานโดย เคารพ ให้ทานด้วยมือของตน ให้ทานด้วยความนอบน้อม มิได้ให้ทาน อย่างทิ้งให้ เบื้องหน้า แต่ตายเพราะกายแตก เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ คืออยู่ร่วม กับพวกเทวดาชั้นดาวดึงส์ ส่วนข้าพเจ้า มิได้ให้ทานโดยเคารพ มิได้ให้ทานด้วย มือของตน มิได้ให้ทานด้วยความนอบน้อม ให้ทานอย่าง ทิ้งให้ เบื้องหน้าแต่ตาย เพราะกายแตก ก็เข้าถึงซึ่งความอยู่ร่วมกับพวกเทวดาชั้นจาตุมหาราช คือ ได้วิมาน ชื่อเสรีสกะอันว่างเปล่า ท่านควัมปติผู้เจริญ ถ้าอย่างนั้น ท่านไปยังมนุษยโลก แล้ว โปรดบอกอย่างนี้ว่า ท่านทั้งหลายจงให้ทานโดยเคารพ จงให้ทานด้วยมือของ ตน จงให้ทานโดย ความนอบน้อม จงอย่าให้ทานอย่างทิ้งให้ เจ้าปายาสิมิได้ให้ ทานโดยเคารพ มิได้ให้ทานด้วยมือ ของตน มิได้ให้ทานโดยความนอบน้อม ให้ ทานอย่างทิ้งให้ เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เข้าถึงความอยู่ร่วมกับพวกเทวดา ชั้นจาตุมหาราช คือได้วิมานชื่อเสรีสกะอันว่างเปล่า ส่วนอุตตร มาณพ ซึ่งเป็น เจ้าหน้าที่ในทานของเจ้าปายาสินั้นให้ทานโดยเคารพ ให้ทานด้วยมือของตน ให้ ทานโดยความนอบน้อม มิได้ให้ทานอย่างทิ้งให้ เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เข้าถึงสุคติ โลกสวรรค์ คืออยู่ร่วมกับพวกเทวดาชั้นดาวดึงส์ ฯ ลำดับนั้น ท่านควัมปติมาสู่มนุษยโลกแล้ว ได้บอกอย่างนี้ว่า ท่านทั้งหลาย จงให้ทาน โดยเคารพ จงให้ทานด้วยมือของตน จงให้ทานโดยความนอบน้อม จง อย่าให้ทานอย่างทิ้งให้ เจ้าปายาสิมิได้ให้ทานโดยเคารพ มิได้ให้ทานด้วยมือของ ตน มิได้ให้ทานโดยความนอบน้อม ให้ ทานอย่างทิ้งให้ เบื้องหน้าแต่ตายเพราะ กายแตก เข้าถึงความอยู่ร่วมกับพวกเทพชั้นจาตุมหาราช คือได้วิมาน ชื่อเสรีสกะ อันว่างเปล่า ส่วนอุตรมาณพซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในทานของเจ้าปายาสินั้น ให้ทาน โดยความเคารพ ให้ทานด้วยมือของตน ให้ทานโดยความนอบน้อม มิได้ให้ ทานอย่างทิ้ง ให้ เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ คืออยู่ ร่วมกับพวกเทพชั้นดาวดึงส์ ฯ จบ ปายาสิราชัญญสูตร ที่ ๑๐