พระสุตตันตปิฎกไทย: 23/259/174
สุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ศีลสัมปทาเป็นไฉน กุลบุตรในโลกนี้เป็นผู้งดเว้น จากปาณา
ติบาต ฯลฯ เป็นผู้งดเว้นจากการดื่มน้ำเมา คือ สุราและเมรัยอันเป็นฐานแห่งความประมาท ดูกร
ภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่าศีลสัมปทา ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็จาคสัมปทาเป็นไฉน กุลบุตรในโลกนี้มีจิตปราศจากมลทิน คือ
ความตระหนี่ อยู่ครองเรือน ฯลฯ ควรแก่การขอ ยินดีในการจำแนกทาน ดูกรภิกษุทั้งหลาย
นี้เรียกว่าจาคสัมปทา ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ปัญญาสัมปทาเป็นไฉน กุลบุตรในโลกนี้ เป็นผู้มีปัญญา ฯลฯ
ให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบ ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่าปัญญาสัมปทา ดูกรภิกษุทั้งหลาย
สัมปทา ๘ ประการนี้แล ฯ
คนหมั่นในการทำงาน ไม่ประมาท จัดการงานเหมาะสม
เลี้ยงชีพพอเหมาะ ตามรักษาทรัพย์ที่หามาได้ มีศรัทธา ถึง
พร้อมด้วยศีล รู้ถ้อยคำ ปราศจากความตระหนี่ ชำระทาง
สัมปรายิกัตถประโยชน์เป็นนิตย์ ธรรม ๘ ประการดังกล่าวนี้
ของผู้ครองเรือน ผู้มีศรัทธา อันพระพุทธเจ้าผู้มีพระนาม
อันแท้จริง ตรัสว่านำสุขมาให้ในโลกทั้งสอง คือ ประโยชน์
ในปัจจุบันนี้และความสุขในภายหน้า บุญ คือ จาคะนี้ ย่อม
เจริญแก่คฤหัสถ์ด้วยประการฉะนี้ ฯ
จบสูตรที่ ๖
อิจฉาสูตร
[๑๗๔] ณ ที่นั้นแล ท่านพระสารีบุตรเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรอาวุโสทั้งหลาย ภิกษุ
เหล่านั้นรับคำท่านพระสารีบุตรแล้ว ท่านพระสารีบุตรได้กล่าวว่าดูกรอาวุโสทั้งหลาย บุคคล ๘
จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก ๘ จำพวกเป็นไฉน ฯ